สร้าง Brand Identity ผ่าน Office Interior สะท้อนตัวตนองค์กรให้โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ | Modernform

แต่งออฟฟิศให้ปังด้วยการเล่าเรื่องแบรนด์ผ่านพื้นที่ทำงาน รู้จักวิธีสร้าง Brand Identity ด้วย Office Interior แบบที่ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันและความเป็นตัวตน พร้อมไอเดียจัดพื้นที่ทำงานที่ช่วยให้ Modern Office ของคุณน่าจดจำกว่าเดิม

สร้าง Brand Identity ผ่าน Office Interior

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาพลักษณ์ขององค์กรก็มีความสำคัญพอๆ กับคุณภาพงาน ออฟฟิศทุกวันนี้ได้กลายเป็นพื้นที่ที่เล่าเรื่องแบรนด์ผ่านดีไซน์ที่สื่อสารได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าไป การจัดพื้นที่ทำงานให้ตอบโจทย์จึงถือเป็นการลงทุนเพื่อสร้าง Brand Identity ที่แข็งแรงและน่าจดจำทั้งต่อพนักงานและแขกผู้มาเยือน ยิ่งในยุค Modern Office ที่ทุกดีเทลมีความหมาย การออกแบบ Office Interior จึงกลายเป็นเครื่องมือสื่อสารแบรนด์ที่สำคัญมาก บทความนี้จึงจะพาคุณไปดูว่าแค่เลือกโทนสี พื้นผิววัสดุ หรือแม้แต่สไตล์การตกแต่งให้สอดคล้องกับตัวตนของแบรนด์ ก็สามารถสร้างออฟฟิศที่มีเอกลักษณ์และน่าจดจำได้จริง

ถอดรหัส Brand สู่การออกแบบ เลือกสีสัน วัสดุ และสไตล์ให้สะท้อนตัวตน 

ก่อนจะเริ่มดีไซน์ออฟฟิศให้มีสไตล์แบบ Modern Office ที่ใครเห็นก็ต้องว้าว สิ่งแรกที่ต้องทำคือต้องเข้าใจตัวตนของแบรนด์ให้ชัดเจน ทั้งแก่นแท้ ค่านิยม และบุคลิกภาพ เพราะสิ่งเหล่านี้คือหัวใจที่จะถูกแปลงออกมาเป็นองค์ประกอบต่างๆ ใน Office Interior การจัดพื้นที่ทำงานให้เล่าเรื่องแบรนด์อย่างมีชั้นเชิงจึงเริ่มต้นจากการรู้จักตัวเอง และนี่คือ 3 หัวใจหลักที่ควรพิจารณาในการออกแบบออฟฟิศให้ตรงกับ Brand Identity

การเลือกใช้สี (Color Palette)

สีคืออารมณ์ และการออกแบบออฟฟิศที่ดีควรใช้จิตวิทยาของสีเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้ตรงกับภาพลักษณ์แบรนด์ เช่น โทนฟ้า-ขาว ที่ดูนิ่ง สุขุม และน่าเชื่อถือ เหมาะกับบริษัทสายเทคโนโลยี หรือสีจัดจ้านแบบแดง เหลือง เขียว ที่ให้ฟีลสนุก มีพลัง สะท้อนความครีเอทีฟของเอเจนซี่โฆษณา แนะนำให้นำสีหลักและสีรองของแบรนด์มาใช้กับผนัง เฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่ง เพื่อให้การจัดพื้นที่ทำงานสื่อถึงแบรนด์อย่างชัดเจนและกลมกลืน

การเลือกใช้วัสดุ (Materials)

วัสดุที่เลือกใช้ในออฟฟิศต้องสะท้อนคาแรกเตอร์ของแบรนด์ได้ชัดเจน เช่น ไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นมิตร กระจกโปร่งใสให้อารมณ์เปิดกว้าง หรือคอนกรีตเปลือยที่ให้ฟีลดิบๆ แต่มีเสน่ห์ การเลือกวัสดุที่สอดคล้องกับภาพลักษณ์ เช่น ถ้าแบรนด์เน้นความหรูหรา อาจเลือกใช้หินอ่อนหรือโลหะเคลือบเงา แต่ถ้าเน้นความยั่งยืนก็ใช้วัสดุรีไซเคิลหรือไม้ธรรมชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถ blend เข้ากับ Office Interior ได้อย่างมีเอกลักษณ์

สไตล์การออกแบบ (Design Style)

การกำหนดสไตล์การออกแบบเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ บางแบรนด์อาจเหมาะกับความเรียบเท่แบบ Minimalist ในขณะที่อีกแบรนด์อาจเลือก Industrial เพื่อสื่อถึงความแข็งแรง ทนทาน ทุกองค์ประกอบไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง แสงไฟ ไปจนถึงพื้นผิว ควรไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้ Modern Office กลายเป็นพื้นที่ที่มีทั้งฟังก์ชันและเล่าเรื่องแบรนด์ได้อย่างทรงพลัง

ไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องใช่ การจัดพื้นที่ทำงานที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร 

รูปแบบการจัดพื้นที่ทำงานมีผลโดยตรงต่อพฤติกรรม การสื่อสาร และบรรยากาศการทำงานโดยรวม การออกแบบ Office Interior ที่เข้าใจวัฒนธรรมองค์กรจึงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ Modern Office ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องประสิทธิภาพและความรู้สึกเป็นเจ้าของพื้นที่ของพนักงานจริงๆ

ประเภทของพื้นที่ทำงานที่สะท้อน Brand

  • พื้นที่ต้อนรับ (Reception Area)

จุดแรกที่ใครๆ ก็ต้องเห็นคือหน้าตาของแบรนด์ พื้นที่ต้อนรับจึงควรสะท้อน Brand Identity ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการวางโลโก้ การใช้สีหลักของแบรนด์ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้ จะเรียบหรู ทันสมัย หรืออบอุ่น ก็ล้วนเป็น First Impression ที่สำคัญ

  • พื้นที่ทำงานร่วมกัน (Collaborative Spaces)

สำหรับองค์กรที่เน้นไอเดียสดใหม่และต้องการระดมความคิดอยู่เป็นประจำ พื้นที่ส่วนนี้ควรเปิดโล่ง มีที่นั่งยืดหยุ่น เช่น โซฟา โต๊ะกลุ่ม หรือมุมสเก็ตช์ไอเดียบนผนังไวท์บอร์ด ดีไซน์แบบนี้สะท้อนถึงแบรนด์ที่มีความเปิดกว้าง คล่องตัว และสนุกกับการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ

  • พื้นที่ทำงานส่วนตัว (Individual Workstations)

ถึงจะทำงานเป็นทีม แต่หลายๆ งานก็ต้องการพื้นที่ที่เงียบสงบ การดีไซน์ที่นั่งทำงานแบบแยกส่วนควบคู่กับการใส่ดีเทลเล็กๆ อย่างพาร์ทิชันที่มีกราฟิกแบรนด์ หรือโทนสีที่ใช้ ก็สามารถสื่อถึงความเป็นมืออาชีพและบุคลิกของแบรนด์ได้

  • ห้องประชุม (Meeting Rooms)

ห้องประชุมสำหรับ Modern Office ไม่ควรจืดชืดเหมือนห้องประชุมทั่วไป ลองตั้งชื่อห้องตามค่านิยมขององค์กรหรือใช้กราฟิกที่สื่อถึงโปรเจกต์หรือผลิตภัณฑ์เด่นๆ ของบริษัท ควรออกแบบห้องประชุมไม่ใช่แค่เรื่องงาน แต่เป็นประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับแบรนด์โดยตรง

  • พื้นที่พักผ่อน (Breakout Areas/Pantry)

แม้จะเป็นโซนพักผ่อนแต่ก็ไม่ควรหลุดธีมจากแบรนด์ ดีไซน์ที่ยังคงใช้ Mood & Tone เดียวกับส่วนอื่นๆ ช่วยให้ภาพรวมของออฟฟิศดูเป็นหนึ่งเดียว และยังแสดงถึงการใส่ใจ Well-being ของพนักงานได้อย่างมีสไตล์

การใช้กราฟิก , Signage, หรือ Artworks ที่สื่อสารเรื่องราวของแบรนด์

ภาพกราฟิก โลโก้แบบ Creative หรือ Artworks ที่เล่าเรื่องราวของแบรนด์สามารถทำให้ Office Interior ดูมีมิติและมีชีวิตมากขึ้น ยิ่งใน Modern Office ที่หลายพื้นที่เป็น Open Space การใช้กราฟิกช่วยคุมธีมและใส่บุคลิกเข้าไปในแต่ละโซนได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็น Quote แรงบันดาลใจจากผู้ก่อตั้ง ภาพแสดงวิสัยทัศน์ หรือแม้แต่แผนที่เส้นทางการเติบโตของแบรนด์ ก็สามารถเปลี่ยนกำแพงเปล่าๆ ให้กลายเป็น Story Wall ที่เล่าเรื่องได้อย่างน่าสนใจ

Modern Office กับการสร้าง Brand Identity ในยุคใหม่ 

เมื่อพูดถึง Modern Office หลายคนอาจนึกถึงแค่ออฟฟิศสวยๆ มีเทคโนโลยีล้ำๆ แต่จริงๆ แล้วมันลึกซึ้งกว่านั้น เพราะ Modern Office คือแนวคิดในการจัดพื้นที่ทำงานที่ไม่ใช่แค่ทันสมัย แต่รวมถึงการออกแบบที่ยืดหยุ่น ผสานเทคโนโลยีเข้ากับชีวิตประจำวัน และที่สำคัญคือใส่ใจ Well-being ของพนักงานด้วย ทั้งหมดนี้ไม่ได้แค่เพิ่มความสะดวกในการทำงาน แต่ยังกลายเป็นอีกหนึ่งภาษาที่สื่อสารออกไปอย่างมีสไตล์ ตั้งแต่การวางผังออฟฟิศไปจนถึงการเลือกเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น

การนำแนวคิด Modern Office มาปรับใช้เพื่อเสริมสร้าง Brand Identity

  • ความยืดหยุ่น (Flexibility)

แบรนด์ยุคใหม่ต้อง Agile พอๆ กับพื้นที่ทำงาน การมีโซนที่ปรับเปลี่ยนได้ เช่น โต๊ะทำงานแบบ Hot Desk หรือพื้นที่ Co-working ขนาดเล็กในออฟฟิศ ช่วยสะท้อนความยืดหยุ่นในการทำงานและความพร้อมของแบรนด์ในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอย่างชาญฉลาด

  • เทคโนโลยี (Technology)

การใช้เทคโนโลยีไม่ใช่แค่ทำให้ออฟฟิศดูไฮเทค แต่เป็นการเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ทันเกม เช่น การติดตั้งระบบ Video Conference ที่ลื่นไหล หรือระบบ Access Control ที่เชื่อมกับแอปฯ ก็ล้วนเป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่แสดงให้เห็นว่าแบรนด์พร้อมพัฒนาไปข้างหน้าเสมอ

  • ความเป็นอยู่ที่ดี (Well-being)

องค์กรที่แคร์คนทำงานอย่างจริงจัง จะใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อยู่เสมอ เช่น การเลือกเฟอร์นิเจอร์แบบ Ergonomic การจัดองค์ประกอบต่างๆ ให้เหมาะแก่การทำงาน หรือการเพิ่มมุมนั่งชิลในออฟฟิศ ทั้งหมดล้วนช่วยส่งเสริมสุขภาพกายใจพนักงาน และสะท้อน Brand Identity ที่เน้นคนเป็นศูนย์กลาง

ตัวอย่างการออกแบบ Modern Office ที่สะท้อน Brand Identity ของบริษัทชั้นนำ

  • Google - กับออฟฟิศที่เต็มไปด้วยโซนสร้างสรรค์ สีสันสนุก มีทั้งห้องเกม คาเฟ่ และโซนนอนเล่น เพราะออฟฟิศนี้เน้นเรื่องของการคิดนอกกรอบ
  • Apple - กับการเลือกจัดพื้นที่ทำงานแบบมินิมอล คลีน แต่เป๊ะทุกดีเทล ทั้งผังออฟฟิศ สี และวัสดุที่ใช้ ล้วนสะท้อนแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์และนวัตกรรม
  • Airbnb - ที่จัดพื้นที่ทำงานให้เหมือนอยู่บ้าน ผสมผสานการตกแต่งที่สะท้อนแต่ละเมืองทั่วโลก สื่อถึงความหลากหลาย ความเป็นมิตร และการเชื่อมโยงผู้คน ซึ่งเป็นหัวใจของแบรนด์

สร้าง Brand Identity ผ่าน Office Interior

วัดผลความสำเร็จ Office Interior ช่วยขับเคลื่อน Brand ให้แข็งแกร่ง 

การออกแบบ Office Interior ควรเป็นพลังขับเคลื่อน Brand Identity ให้แข็งแรงขึ้นในทุกมิติ และเมื่อออฟฟิศสามารถสื่อสารแทนแบรนด์ได้จริง ก็ถึงเวลามาวัดผลลัพธ์กันว่างานออกแบบนี้สร้าง Impact แค่ไหน

ประโยชน์ที่จับต้องได้ของการลงทุนใน Office Interior ที่สอดคล้องกับ Brand

  • สร้างความแตกต่างและความน่าจดจำ

ออฟฟิศที่มีเอกลักษณ์ ไม่ใช่แค่ดูดี แต่จำง่าย และสร้าง First Impression ได้ตั้งแต่ก้าวแรก ช่วยให้แบรนด์ดูโดดเด่นในโลกที่ทุกอย่างคล้ายกันไปหมด

  • ดึงดูดและรักษาพนักงาน (Talent Attraction & Retention)

ออฟฟิศที่เข้าใจไลฟ์สไตล์ของพนักงานยุคใหม่ ทำให้พนักงานรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรที่ใส่ใจ บางคนเลือกงานเพราะออฟฟิศก็มีเยอะขึ้นเรื่อยๆ

  • สร้างความประทับใจให้ลูกค้าและคู่ค้า

ห้องประชุมที่มีสไตล์เฉพาะตัว หรือมีโซนรับแขกที่ออกแบบอย่างเป็นมืออาชีพ สามารถส่งต่อภาพลักษณ์แบรนด์ที่มั่นใจ ทันสมัย และใส่ใจรายละเอียดได้อย่างชัดเจน

  • ตอกย้ำค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร

เมื่อการออกแบบออฟฟิศสะท้อนค่านิยมหลักขององค์กรอย่างชัดเจน ก็ช่วยให้พนักงานรู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์มากขึ้น เช่น ถ้าองค์กรให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม ออฟฟิศอาจเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อโลก หรือจัดพื้นที่สีเขียวให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันในที่ทำงาน

การประเมินผลสังงเกตจาก Feedback ของพนักงาน, ผู้มาเยือน, หรือผลกระทบต่อ Employee Engagement

การวัดความสำเร็จของ Modern Office ไม่ได้มีเกณฑ์ตายตัว แต่เราสามารถเริ่มต้นจากเสียงสะท้อนรอบด้าน เช่น

  • พนักงานรู้สึกอย่างไรกับการทำงานในพื้นที่ใหม่?
  • แขกผู้มาเยือนพูดถึงออฟฟิศว่ายังไงบ้าง?
  • มี Engagement หรือการมีส่วนร่วมของพนักงานเพิ่มขึ้นไหม?
  • แบรนด์ดูน่าสนใจจากสายตาคนนอกหรือเปล่า?

บางครั้งคำชมเล็กๆ น้อยๆ อย่าง “ออฟฟิศที่นี่สวยจัง” หรือ “รู้เลยว่าเป็นแบรนด์นี้” ก็เป็นตัวชี้วัดง่ายๆ ว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว เพราะในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลและความวุ่นวาย การที่แบรนด์จะมีพื้นที่ที่พูดแทนตัวเองได้อย่างชัดเจนคือหนึ่งในความสำเร็จที่น่าภูมิใจไม่แพ้เรื่องไหนๆ เลย

สรุป

Office Interior Design ไม่ได้เป็นแค่การตกแต่งอันสวยงามเท่านั้น แต่คือเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยสร้างและส่งต่อ Brand Identity ให้ชัดเจนและมีพลัง ทั้งกับคนในและคนนอกองค์กร หัวใจสำคัญอยู่ที่การเข้าใจแบรนด์อย่างลึกซึ้งแล้วถ่ายทอดออกมาผ่านการเลือกใช้โทนสี วัสดุ สไตล์ ไปจนถึงการจัดพื้นที่ทำงานที่ตอบโจทย์ฟังก์ชันและวัฒนธรรมองค์กรอย่างแท้จริง การลงทุนใน Modern Office ที่ “ใช่” ไม่เพียงแต่ทำให้ออฟฟิศดูดี แต่ยังช่วยให้แบรนด์น่าจดจำมากขึ้น ดึงดูดคนที่ใช่ และสะท้อนตัวตนองค์กรในแบบที่ไม่มีใครก็อปปี้ได้

FAQ 

การออกแบบ Office Interior ให้สะท้อน Brand Identity จำเป็นต้องใช้งบประมาณสูงหรือไม่?

  • ไม่จำเป็นเสมอไป งบประมาณไม่ใช่ตัวตัดสินผลลัพธ์ สิ่งสำคัญคือการออกแบบที่ตรงกับตัวตนแบรนด์ เช่น การใช้สี โลโก้ หรือเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกมาอย่างตั้งใจ ก็ช่วยให้พื้นที่ดูมีความหมายและแตกต่างได้แม้จะเป็นการปรับเพียงบางส่วน

ถ้า Brand ของบริษัทมีความซับซ้อนหรือไม่ชัดเจน จะเริ่มต้นออกแบบ Office Interior อย่างไร?

  • เริ่มจากการทำความเข้าใจตัวตนของแบรนด์ให้ชัดเจนก่อน เช่น จัด Workshop หรือหารือภายในเพื่อถอดภาพลักษณ์ ค่านิยม และบุคลิกขององค์กร แล้วค่อยนำแนวคิดเหล่านั้นไปต่อยอดเป็นงานออกแบบ ซึ่งจะทำได้ง่ายขึ้นหากมีผู้เชี่ยวชาญด้าน Branding หรือ Office Interior มาช่วยดูภาพรวมร่วมกัน

สไตล์ Modern Office สามารถนำมาปรับใช้กับการสร้าง Brand Identity ขององค์กรที่ดูมีความเป็นทางการ (Formal) ได้หรือไม่?

  • ได้แน่นอน เพราะ Modern Office เน้นเรื่องของฟังก์ชัน ความยืดหยุ่น และการผสานเทคโนโลยี ไม่ได้จำกัดอยู่ที่สไตล์แปลกใหม่หรือสีจัดจ้าน เพียงเลือกใช้วัสดุ โทนสี และดีไซน์ที่เหมาะกับความเป็นทางการ ก็สามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดูมืออาชีพ ทันสมัย และยังเป็นมิตรต่อการใช้งานในชีวิตจริงได้เช่นกัน

เพราะพื้นที่ที่ดี ไม่ไช่แค่รองรับการทำงาน แต่ต้องช่วยให้คุณทำงานได้เวิร์คขึ้น สนุกขึ้น และสมาร์ทยิ่งขึ้น ORBIX เฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบทุกพื้นที่ให้ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ ตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่แบบเต็มแม็กซ์! ไม่ว่า Activity Based Working จะเป็นแบบไหน ก็ลงตัวได้ในสไตล์คุณ มูฟไปพร้อมกับอนาคตของการทำงานยุคใหม่! พบกับ ORBIX ได้แล้ววันนี้ที่ Modernform Ploenchit หรือ คลิกดูรายละเอียดได้ที่นี่

Explore Products

ออกแบบออฟฟิศยุคใหม่

Next Inspired

10 ไอเดียออกแบบออฟฟิศยุคใหม่ที่ตอบโจทย์การทำงานของ Millennials

ออกแบบออฟฟิศยุคใหม่อย่างไรให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานของกลุ่มคน Millennials ทำงานระยะไกลและนอกสถานที่อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

Discover
แชร์