เทคโนโลยีกับการจัดพื้นที่ทำงาน ด้วย Gadget ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ

การเปลี่ยนแปลงของการทำงานในยุคปัจจุบันนั้นกำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง จะเห็นได้จากการที่องค์กรต่าง ๆ มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาพัฒนาในองค์กร และปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้นั้นมีความจำเป็นอันดับต้น ๆ ในชีวิตการทำงาน เพราะภายในองค์กรล้วนมีการติดต่อสื่อสาร ทำกิจกรรมร่วมกัน และการประสานงานทั้งในและนอกหน่วยงาน ส่งผลให้องค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการจัดพื้นที่ทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งการนำเทคโนโลยีและ Gadget ต่างๆ มาใช้ในองค์กร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาองค์กรให้ก้าวทันสถานการณ์โลก แล้วเรามีวิธีเลือก Gadget ที่เหมาะสมกับพื้นที่ทำงานอย่างไร ในบทความนี้จะมาเจาะลึกเทคโนโลยีกับการจัดพื้นที่ทำงาน ด้วย Gadget ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน จะมีหัวข้อที่น่าสนใจอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันได้เลย 

การเลือก Gadget ที่เหมาะสมกับพื้นที่ทำงาน

• การเลือกอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย

การเพิ่ม Gadget ในพื้นที่ทำงานนั้นช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้น ตัวอย่างอุปกรณ์ Gadget ที่นิยมนำมาใช้ในสำนักงาน เช่น เก้าอี้หรือโต๊ะทำงานที่ปรับระดับ สูง-ต่ำได้ ช่วยทำให้พนักงานสามารถปรับเก้าอี้หรือโต๊ะให้เหมาะสมกับสรีระร่างกาย ลดอาการออฟฟิศซินโดรม และนั่งทำงานในอิริยาบถที่เหมาะสม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พนักงานทำงานได้เต็มที่และเกิดประสิทธิภาพมากกว่าเก้าอี้หรือโต๊ะทำงานที่ไม่สามารถปรับระดับได้

• เทคโนโลยีที่ช่วยในการเชื่อมต่อ

นอกจากอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายแล้ว องค์กรสามารถนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาปรับใช้ในสำนักงานได้ ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีที่ช่วยในการเชื่อมต่อ อย่างการใช้แท็บเล็ตหรือสมาร์ตโฟนในการทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์ผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ ปัจจุบันการใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมต่อข้อมูลถูกนำมาใช้ในสำนักงานมากขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกในขั้นตอนปฏิบัติงานและติดต่อประสานงาน ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้มีความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรให้ก้าวหน้าด้วยเช่นกัน

Gadget ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

เมื่อโลกพัฒนาให้ทันสมัยมากขึ้น อุปกรณ์ หรือ Gadget จึงถือว่าสำคัญและจำเป็นในสำนักงาน เพราะทุกกิจกรรมภายในองค์กรล้วนอาศัยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นและพัฒนาองค์กรให้ก้าวหน้า สำหรับ Gadget ที่ถูกนำมาใช้ในสำนักงานก็มีอยู่หลายตัว จะขอยกตัวอย่างดังนี้ 

• อุปกรณ์สำหรับการจัดระเบียบพื้นที่ทำงาน

เมื่อการจัดพื้นที่ทำงานมีความยุ่งยากมากขึ้น ปัญหาโต๊ะทำงานรกและไม่เป็นระเบียบจึงเกิดขึ้น องค์กรต่าง ๆ จึงนำอุปกรณ์สำหรับการจัดระเบียบพื้นที่ทำงานมาปรับใช้ ตัวอย่างเช่น สายชาร์จแบบไร้สาย เพื่อทำให้การชาร์จแบตสะดวกขึ้น และหมดปัญหาสายชาร์จเกะกะในพื้นที่ทำงาน หรือ การใช้ฐานวางโทรศัพท์ เพื่อจัดระเบียบพื้นที่โต๊ะให้น่ามองและยังเป็นการตกแต่งออฟฟิศหรือโต๊ะทำงานให้สวยงามได้ด้วย หรือแท็บเล็ตเพื่อให้โต๊ะทำงานสะอาด ประหยัดพื้นที่ อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยให้พนักงานนั่งทำงานในพื้นที่ที่เป็นระเบียบมากกว่าเดิม

• เครื่องมือสำหรับการปรับสภาพแวดล้อมการทำงาน

หากพบปัญหาเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในพื้นที่ทำงาน ตัวอย่างเช่น ปัญหามลพิษทางอากาศ หรือ ปัญหาแสงสว่างไม่เพียงพอ เราสามารถนำเครื่องมือสำหรับการปรับสภาพแวดล้อมการทำงานมาใช้ในองค์ได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น การใช้เครื่องฟอกอากาศ เพื่อแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ หรือ PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ หรือ การนำหลอดไฟอัจฉริยะที่ปรับแสงตามสภาพแวดล้อมมาใช้ เพื่อแก้ปัญหาแสงสว่างไม่เพียงพอ และเป็นการถนอมสายตาเพื่อสุขภาพตาที่ดีของพนักงาน เป็นต้น ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ช่วยยกระดับสภาพแวดล้อมในพื้นที่ทำงานให้ได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น 

• อุปกรณ์เสริมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

นอกจากอุปกรณ์ข้างต้นที่กล่าวมา องค์กรยังสามารถเพิ่มอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเข้ามาได้ ตัวอย่างเช่น แผ่นรองเมาส์แบบมีฟังก์ชันพิเศษ, คีย์บอร์ดไร้สาย, หรืออุปกรณ์ที่ช่วยให้การประชุมทางไกลมีคุณภาพ อุปกรณ์เหล่านี้เป็นตัวช่วยสำคัญที่อำนวยความสะดวกให้การทำงานลื่นไหลไม่ติดขัด และส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มมากขึ้นเมื่อใช้อย่างเหมาะสมอีกด้วย 

เทคโนโลยีที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานแบบไฮบริด

• การใช้เครื่องมือสำหรับการประชุมออนไลน์

เมื่อการทำงานแบบไฮบริดมีอิทธิพลต่อองค์กรมากขึ้น หลายองค์กรจึงมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่น โดยพนักงานสามารถจัดการเรื่องสถานที่ทำงานได้ตามต้องการ เทคโนโลยีที่ทันสมัยจึงเข้ามามีบทบาทในองค์กร ตัวอย่างเช่น การนำกล้องเว็บแคมที่มีคุณภาพสูงมาใช้ในองค์กร เพื่อภาพที่คมชัดขณะประชุมออนไลน์ หรือ ลำโพงอัจฉริยะ ที่มีฟีเจอร์โต้ตอบและสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ หรือจะเป็น ซอฟต์แวร์ประชุมออนไลน์ที่มีฟีเจอร์เสริม ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการทำงานทางไกล และไม่ต้องหาตัวช่วยเสริมอื่น ๆ เพิ่มเติม เป็นต้น 

• เครื่องมือสำหรับการจัดการโปรเจกต์

นอกจากอุปกรณ์ทันสมัยที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานแบบไฮบริดแล้วนั้น ยังมีเครื่องมือสำคัญที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทางไกลได้นั่นก็คือ แอปพลิเคชันสำหรับการติดตามงาน และการจัดระเบียบการทำงานร่วมกันแบบไฮบริด เป็นแอปพลิเคชันที่ทำให้การติดต่อสื่อสาร ตลอดจนการรายงานผลการปฏิบัติงานที่ทำร่วมกันเป็นไปได้สะดวกและง่ายขึ้น ส่งเสริมการทำงานเป็นทีมอย่างมีคุณภาพ ประสิทธิภาพของงานจึงเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

การดูแลและบำรุงรักษา Gadget ให้ยาวนาน

• การทำความสะอาดและบำรุงรักษา

เมื่อ Gadget ถูกนำมาใช้งานติดต่อกันนานขึ้น ย่อมส่งผลให้อุปกรณ์เหล่านี้เกิดปัญหาขณะใช้งานหรือเสื่อมสภาพ การหมั่นดูแลรักษาและทำความสะอาดอยู่เสมอจึงช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ให้ยาวนานขึ้น โดยการทำความสะอาดหรือบำรุงรักษานั้น สามารถทำบ่อยได้ตามต้องการเพื่อประสิทธิภาพการใช้งานที่ดี หากเราหมั่นทำความสะอาดอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ อยู่เสมอ อุปกรณ์เหล่านี้ก็จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและทำให้เราใช้งานได้อย่างราบรื่นเมื่อต้องการ 

• การเลือกอุปกรณ์ที่ใช้งานได้ยาวนานและมีคุณภาพ

แน่นอนว่าการเลือกอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานและมีคุณภาพนั้นสำคัญเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะอุปกรณ์ที่มีราคาสูง เราจำเป็นต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์มาพิจารณาเลือกอุปกรณ์ที่ดีที่สุด เพื่อทั้งตอบโจทย์การใช้งาน สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและใช้งานได้ยาวนานมากกว่า ซึ่งการเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพไม่เพียงทำให้การใช้งานยาวนานขึ้น แต่ยังเป็นการควบคุมงบประมาณที่ไม่จำเป็น อย่างการซ่อมแซมหรือบำรุงรักษาอุปกรณ์ เมื่อสามารถควบคุมรายจ่ายส่วนนี้ได้ก็เป็นผลดีต่อองค์กรที่สามารถพัฒนาในส่วนอื่น ๆ ของสำนักงานได้นั่นเอง