ออกแบบ Smart Office แบบ Individual Workspace ปรับพื้นที่ทำงานส่วนตัว ตอบโจทย์คนทำงานยุคใหม่
ออกแบบ Smart Office แบบ Individual Workspace ปรับพื้นที่ทำงาน เสริมสร้างความสุขให้พนักงานรุ่นใหม่ และเอื้อประโยชน์ต่อการทำงาน พาองค์กรเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดในระยะเวลาสั้น ๆ ได้

ในยุคที่การทำงานเปลี่ยนแปลงไป เน้นการทำงานรูปแบบ Hybrid Working และ Remote Working มากขึ้น ดังนั้นพนักงานในองค์กร จึงมีความยืดหยุ่นในการทำงานสูง ทว่าความยืดหยุ่นนี้ พื้นที่ในองค์กรก็ต้องเอื้อให้พนักงานทำงานได้เต็มที่ มีประสิทธิภาพและมีความสุขด้วย ทำให้กระแสการออกแบบ Smart Office นี้กลับมาอีกครั้ง แล้วทำไม ต้องเป็นการออกแบบออฟฟิศดังกล่าว ศึกษาเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ทำไม Individual Workspace ถึงสำคัญในการ ออกแบบ Smart Office ยุคใหม่
จากที่กล่าวไปข้างต้น ทุกวันนี้การทำงาน รูปแบบ Hybrid Working และ Remote Working เข้ามามีบทบาทต่อพนักงานในองค์กรมากขึ้น แล้วพฤติกรรมของพนักงานยุคใหม่ก็แตกต่างไปจากเดิมมาก ทำให้การออกแบบออฟฟิศแบบเดิมไม่ได้ตอบโจทย์พนักงานรุ่นใหม่มากนัก แต่ออกแบบ Smart Office แบบ Individual Workspace กลับช่วยให้พนักงานในองค์กร ทำงานมีประสิทธิภาพสูง เพราะการออกแบบออฟฟิศแบบดังกล่าว เป็นการจัดพื้นที่ทำงานให้เหมาะสมต่อบุคคลนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็น การจัดโต๊ะทํางานออฟฟิศ การเลือกเก้าอี้ และผสานเทคโนโลยีเข้าไปด้วย จึงช่วย
- ตอบสนองความต้องการด้านสมาธิและพนักงานโฟกัสที่งานได้เต็มที่
- เพิ่มความเป็นส่วนตัว ลดสิ่งรบกวน ทำให้พนักงานสร้างสรรค์ผลงานได้ดี
- ส่งเสริมสุขภาวะที่ดี (Well-being) ของพนักงาน ลดความตึงเครียด
- เพิ่มความพึงพอใจและประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน
- และรองรับรูปแบบการทำงานที่หลากหลายของแต่ละบุคคลนั่นเอง
หลักการ จัดโต๊ะทํางาน ออฟฟิศ สำหรับ Individual Workspace สร้างสรรค์และถูกหลัก Ergonomics
ด้วยความที่การออกแบบออฟฟิศแบบ Individual Workspace จะเน้นพื้นที่ทำงานให้เหมาะสมกับบุคคลนั้น ๆ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงออฟฟิศธรรมดา ให้กลายเป็นพื้นที่ทำงานที่ดี คือ การจัดโต๊ะทํางานออฟฟิศ ด้วยสรีระของพนักงานแต่ละคนต่างกัน หน้าที่การทำงานต่างกัน เช่น พนักงานกราฟิก ต้องนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ระยะเวลานาน พนักงานขาย อยู่ออฟฟิศไม่นาน ต้องเดินทางไปติดต่อลูกค้า ฯลฯ ด้วยการทำงานที่ต่างกัน ก็ต้องเลือกโต๊ะและมุมทำงานที่เอื้อให้ทำงานได้เต็มที่ในหน้าที่นั้น ๆ โดย มี 5 หลักการ ดังนี้
- การเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ปรับระดับได้ เช่น โต๊ะ, เก้าอี้ ตามหลักการยศาสตร์ (Ergonomics)
- การจัดวางอุปกรณ์บนโต๊ะทำงานให้ใช้งานสะดวก ช่วยลดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น
- แสงสว่างที่เหมาะสม เน้นแสงธรรมชาติและแสงไฟที่ปรับได้เฉพาะบุคคล
- การจัดเก็บที่เป็นระเบียบ เช่น ชั้นวาง, ลิ้นชัก, อุปกรณ์จัดระเบียบสายไฟ
- องค์ประกอบที่สร้างความสบายตาและผ่อนคลาย เช่น มีต้นไม้เล็ก ๆ มุมห้อง มองสบายตาหรือของตกแต่งส่วนตัว
เทคนิค ออกแบบออฟฟิศ ให้มีสมดุลระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ส่วนกลาง
ออกแบบ Individual Workspace ที่ดี ไม่ใช่จะจัดวางเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างไรก็ได้ ในการออกแบบออฟฟิศ จะต้องคำนึงถึงความสมดุลระหว่างพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่ส่วนบุคคลเป็นหลัก ทำให้หลายองค์กรเกิดความสงสัย จะจัดสรรพื้นที่อย่างไรให้เหมาะสม บางออฟฟิศก็มีพื้นที่จำกัด พนักงานในออฟฟิศไม่เยอะมาก ในหัวข้อนี้จึงรวมมาให้ 5 เทคนิค ในการออกแบบออฟฟิศให้พื้นที่ทุกส่วนสมดุลกัน มีรายละเอียด ดังนี้
- การแบ่งโซนพื้นที่ในออฟฟิศให้ชัดเจน เช่น โซนทำงานเงียบ โซนทำงานร่วมกันและโซนพักผ่อน
- การใช้พาร์ติชันหรือฉากกั้นแบบต่าง ๆ ซึ่งอุปกรณ์นี้ มีหลากหลายรูปแบบ เช่น แบบโปร่งแสง, แบบเก็บเสียง และแบบเคลื่อนย้ายได้ ซึ่งการใช้ฉากกั้นแบบนี้ จะช่วยสร้างขอบเขตให้ Individual Workspace
- การออกแบบ Acoustic Design ลดเสียงรบกวนข้ามพื้นที่ การออกแบบออฟฟิศดังกล่าว จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ละโซนนั่งทำงานกะนได้อย่างเต็มที่
- การจัดวางตำแหน่งของสิ่งต่าง ๆ ให้เข้าถึงพื้นที่ส่วนกลางได้สะดวก แต่ก็ต้องมีความเป็นส่วนตัว เช่น การจัดโต๊ะทํางานออฟฟิศตามบริบทงานที่ทำงาน งานที่ต้องใช้สมาธิสูง ให้ไปอยู่ในโซนที่เงียบสงบ เป็นต้น
- ความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยน Layout ไม่จำกัด ทุกองค์กรสามารถปรับการ ออกแบบออฟฟิศได้ตามบริบทของพนักงานและองค์กรในอนาคตได้เสมอ
เทคโนโลยีที่ต้องมี! เสริมประสิทธิภาพ Individual Workspace ในการ ออกแบบ Smart Office
ด้วยความที่การออกแบบ Smart Office แบบ Individual Workspace นั้น จะนำเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการทำงาน ช่วยให้การทำงานสะดวก รวดเร็ว และง่ายขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีในออฟฟิศที่ควรมีไว้จัดสรรพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่ส่วนบุคคลที่ดี มี 5 สิ่งที่จำเป็น ดังนี้
- ระบบจองพื้นที่ทำงาน เช่น การจองห้องประชุม เป็นต้น
- ระบบควบคุมสภาพแวดล้อมส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็น แสง สี อุณหภูมิ ฯลฯ
- อุปกรณ์ทันสมัยในการเชื่อมต่อกัน เช่น Smart Docking Station และ Wireless Charging
- ระบบ Video Conference ส่วนตัวขนาดเล็ก ช่วยให้การสื่อสารไม่ยากมาก
- ระบบ IT พนักงานต้องเชื่อมต่อได้ ความเร็วสูงและเสถียรที่สุด
ประโยชน์ ของการออกแบบ Smart Office แบบ Individual Workspace
การออกแบบ Smart Office แบบนี้ มีประโยชน์ต่อองค์กรและพนักงานหลายด้าน มากกว่าความสุขและงานที่ดีมีคุณภาพ ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีก ดังนี้
- เพิ่มสมาธิและประสิทธิภาพในการทำงาน
- ส่งเสริมสุขภาพกายและใจ
- ใช้เทคโนโลยีเพิ่มความสะดวกสบาย
- เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน
- สร้างประสบการณ์ที่ดีในที่ทำงาน
- ส่งเสริมความยั่งยืนขององค์กรได้ดี
สรุป
พนักงานรุ่นใหม่ ใส่ใจในงาน เน้นทุกพื้นที่ต้องพร้อมทำงานตลอด และใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้าช่วย ลดแรงงานลง แต่งานยังคงมีประสิทธิภาพ จึงไม่แปลกที่ทุกวันนี้ การออกแบบออฟฟิศยุคใหม่จะเน้นระบบนี้ เพราะถ้าพนักงานมีจิตใจสดใส ย่อมทำให้งานที่ยาก ๆ ออกมาดี โดยไม่ต้องให้หัวหน้างานไปค่อยตามนั่นเอง
FAQ
1. Individual Workspace ใน Smart Office แตกต่างจากโต๊ะทำงานแบบเดิมอย่างไร
- การออกแบบออฟฟิศดังกล่าว จะเน้นที่การออกแบบพื้นที่ทำงานให้เหมาะสมกับบุคคลนั้น ๆ โดยจะนำเทคโนโลยีทันสมัยเข้าไปผสมผสานด้วย ช่วยให้การทำงานสะดวก สบาย และมีคุณภาพมากที่สุด แต่การออกแบบออฟฟิศแบบเดิม ก็จะเป็นแค่โต๊ะทำงานประจำตำแหน่งเฉย ๆ ไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติม
2. การออกแบบ Individual Workspace เหมาะกับธุรกิจประเภทไหนบ้าง
- ด้วยความที่ปี 2025 มีธุรกิจเกิดใหม่มากมาย การออกแบบ Smart Office แบบ Individual Workspace นี้ จึงเหมาะกับธุรกิจที่พนักงานต้องใช้สมาธิสูงในการทำงาน และต้องการความยืดหยุ่นในการทำงาน เช่น งานด้านเทคโนโลยี, สร้างสรรค์, การเงิน, บริหาร หรือองค์กรที่ใช้ Hybrid Working Model เป็นต้น
3. ใช้งบประมาณสูงหรือไม่ในการปรับปรุงออฟฟิศเป็น Smart Office ที่มี Individual Workspace
- งบประมาณที่ใช้ ในการออกแบบออฟฟิศดังกล่าว แต่ละองค์กรไม่เท่ากัน เพราะงบประมาณจะขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่, ระดับของเทคโนโลยี และคุณภาพของเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้ในองค์กร ซึ่งทุกองค์กรสามารถเริ่มต้นจากระดับพื้นฐานแล้วค่อย ๆ พัฒนาได้ไปทีละส่วนได้ เน้นการวางแผนที่ดีจะช่วยควบคุมงบประมาณได้
4. จะมั่นใจได้อย่างไรว่า Individual Workspace จะมีความเป็นส่วนตัวเพียงพอ แม้อยู่ในพื้นที่เปิด
- การออกแบบออฟฟิศไม่มีตายตัว แค่เน้นโครงสร้างพื้นฐานให้ครบถ้วนเท่านั้น หากองค์กรมีพื้นที่เปิด แต่ออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัว สามารถใช้การออกแบบช่วยได้ เช่น การเลือกใช้พาร์ติชันที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็น ความสูงวัสดุดูดซับเสียง การจัดวาง Layout ที่เว้นระยะห่าง การออกแบบ Acoustic Design ที่ดี หรือแม้แต่การกำหนดโซนทำงานเงียบอย่างชัดเจนก็แก้ไขปัญหาดังกล่าวได้เช่นกัน
เพราะพื้นที่ที่ดี ไม่ไช่แค่รองรับการทำงาน แต่ต้องช่วยให้คุณทำงานได้เวิร์คขึ้น สนุกขึ้น และสมาร์ทยิ่งขึ้น ORBIX เฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบทุกพื้นที่ให้ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ ตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่แบบเต็มแม็กซ์! ไม่ว่า Activity Based Working จะเป็นแบบไหน ก็ลงตัวได้ในสไตล์คุณ มูฟไปพร้อมกับอนาคตของการทำงานยุคใหม่! พบกับ ORBIX ได้แล้ววันนี้ที่ Modernform Ploenchit หรือ คลิกดูรายละเอียดได้ที่นี่