ทำความรู้จัก Diversity & Inclusion Spaces พื้นที่แห่งความหลากหลาย เทรนด์ office room design 2025

จัดพื้นที่ Hybrid Workplace ตามแนวคิด Diversity & Inclusion Spaces พนักงานมีความสุข คุณภาพงานสูง องค์กรเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด

MDF_blogMay25_editorial24_cover

การทำงานทุกวันนี้ ไม่จำกัดแค่ในห้อง แต่ทุกพื้นที่ต้องทำงานได้ ทำให้หลายองค์กร หันมาตกแต่งออฟฟิศตามแนวคิด Diversity & Inclusion มากขึ้น เพราะการตกแต่งออฟฟิศแบบนี้ ทำให้ออฟฟิศมีพื้นที่ตอบโจทย์การใช้งา และวิถีการทำงานของพนักงาน ส่งผลให้พนักงานมีความสุข งานมีประสิทธิภาพ สำหรับองค์กรที่สนใจ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่

Diversity & Inclusion Spaces คืออะไร และทำไมจึงสำคัญในยุค Hybrid Workplace

Diversity & Inclusion Spaces คือ Office Room Design ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับความหลากหลายของพนักงาน ทั้งในด้านวัฒนธรรม ความเชื่อ ความสามารถ และรูปแบบการทำงาน เพื่อให้พนักงานทุกคนรู้สึกมีคุณค่า ความสุข ความปลอดภัยและมีส่วนร่วม โดยไม่จำกัดแค่พื้นที่เฉพาะ แต่สะท้อนผ่านการออกแบบทั้งสำนักงาน โดยการจัดพื้นที่ Hybrid Workplace มีองค์ประกอบหลัก ๆ ดังนี้

1. องค์ประกอบสำคัญ

  • Quiet Zones / Focus Pods

พื้นที่ Office Room Design สำหรับพนักงานที่ต้องการสมาธิสูง หรือผู้ที่ไวต่อเสียงและสิ่งรบกวน ออกแบบให้เงียบ สงบ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเฉพาะบุคคล

  • Wellness Rooms / Relaxation Areas

เป็นการตกแต่งออฟฟิศเป็นพื้นที่พักผ่อนที่ช่วยลดความเครียด อาจมีโซฟานุ่ม เบาะรองนั่ง หรือแสงไฟอบอุ่น เพื่อให้พนักงานได้รีชาร์จพลังระหว่างวัน

  • Prayer Rooms / Contemplation Spaces

ตกแต่งออฟฟิศให้เป็นพื้นที่สงบสำหรับการสวดมนต์ ปฏิบัติศาสนกิจ หรือใช้เวลาส่วนตัวในการตั้งจิต คำนึงถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและศาสนา

  • Mother’s Rooms

ห้องส่วนตัวที่สะดวกสบายสำหรับคุณแม่ที่ต้องปั๊มนมหรือต้องการดูแลบุตร ในห้องนี้ จะต้องตกแต่งออฟฟิศให้มีอุปกรณ์ครบครันและให้ความรู้สึกปลอดภัย

  • Accessible Design

การออกแบบที่คำนึงถึงทุกคน เช่น ทางลาดสำหรับรถเข็น ประตูกว้าง โต๊ะปรับระดับได้ ให้ผู้มีความบกพร่องสามารถเข้าถึงและใช้งานได้อย่างเท่าเทียม

  • Varied Work Settings

มีพื้นที่หลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบเปิดโล่งสำหรับการทำงานร่วมกัน และพื้นที่ปิดสำหรับงานที่ต้องการสมาธิ หรือการประชุมส่วนตัว

2. ความสำคัญในยุค Hybrid

ในยุคนี้ แนวคิด Diversity & Inclusion Spaces มีความสำคัญต่อการจัดพื้นที่ Hybrid Workplace มากขึ้น เพราะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ตอบโจทย์ความหลากหลายของพนักงานหรือความต้องการเฉพาะด้าน ทำให้การทำงานยืดหยุ่น ไม่จำกัดแค่ห้องสี่เหลี่ยม งานที่พนักงานทำ จึงมีประสิทธิภาพสูงที่สุด

จัดพื้นที่ Hybrid Workplace

หลักการออกแบบ Office Room Design ที่ส่งเสริมความหลากหลายและการมีส่วนร่วม

แนวคิดการออกแบบ Diversity & Inclusion Spaces จัดพื้นที่ Hybrid Workplace ในออฟฟิศ ต้องอาศัยองค์ประกอบหลายด้านเพื่อให้ตอบโจทย์พนักงานทุกกลุ่มอย่างแท้จริง ดังนั้นองค์กรต้องมีหลักการตกแต่งออฟฟิศที่ถูกต้อง ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

  1. Empathy & User Research เริ่มจากการเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของพนักงานก่อนตกแต่งออฟฟิศ โดยการสำรวจ สัมภาษณ์ หรือ workshop เพื่อให้การออกแบบสอดคล้องกับความเป็นจริง และสร้างพื้นที่ที่ตอบสนองได้ตรงจุด
  2. Flexibility & Choice การจัดพื้นที่ต้องยืดหยุ่น ให้พนักงานสามารถเลือกใช้งานได้ตามลักษณะงานและอารมณ์ในแต่ละวัน เช่น พื้นที่เปิดสำหรับทำงานร่วมกัน หรือมุมเงียบสำหรับโฟกัส ฯลฯ
  3. Accessibility จัดพื้นที่ Hybrid Workplace ต้องเข้าถึงได้ง่ายสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นทางลาด ห้องน้ำ โต๊ะปรับระดับได้ รวมถึงการจัดแสง เสียง และกลิ่นที่ไม่กระตุ้นประสาทเกินไป
  4. Technology Integration นำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น ระบบจองพื้นที่ทำงาน หน้าจอแสดงผลที่เข้าถึงได้ง่าย หรืออุปกรณ์ในห้องประชุมที่รองรับผู้พิการ
  5. Sensory Design การเลือกใช้วัสดุต่าง ๆ ใน Office Room Design เช่น สี วัสดุ แสง และเสียง จะต้องเหมาะสม ช่วยลดความเครียดและกระตุ้นสมาธิในการทำงาน
  6. Representation & Identity ตกแต่งออฟฟิศให้สะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรม สนับสนุนอัตลักษณ์ต่าง ๆ ให้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร
  7. การจัดโซน ตกแต่งออฟฟิศแบ่งพื้นที่ให้ชัดเจน เช่น โซนเงียบ โซนพูดคุย ลดการรบกวน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น

ประโยชน์ของการมีพื้นที่แห่งความหลากหลาย และแนวโน้มสู่อนาคตของการตกแต่งออฟฟิศ

การตกแต่งออฟฟิศที่เน้นสนองความต้องการของพนักงานได้รอบด้าน ไม่ปิดกั้นความคิดและจินตนาการ นอกจากพนักงานมีความสุข สุขภาพจิตดีแล้ว ยังมีประโยชน์อีกมากมาย ยกตัวอย่างดังนี้

1. ประโยชน์ต่อพนักงาน

  • เพิ่มความพึงพอใจและสุขภาวะ (Well-being)
  • ลดความเครียด เพิ่ม Productivity
  • สร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง (Sense of Belonging) และเท่าเทียม
  • สนับสนุนรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกัน

2. ประโยชน์ต่อองค์กร

  • ดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีความสามารถ (Talent Acquisition & Retention)
  • ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity & Innovation)
  • สร้างภาพลักษณ์องค์กรที่ดี (Employer Branding)
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกัน (Collaboration)

3. แนวโน้มอนาคต

  • D&I จะกลายเป็นมาตรฐาน ไม่ใช่แค่ทางเลือก
  • การออกแบบจะเน้นความเป็นส่วนบุคคล (Personalization) มากขึ้น
  • เทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ Inclusive
  • การผสมผสานระหว่างพื้นที่ทางกายภาพและดิจิทัล (Phygital) เพื่อรองรับ Hybrid Work อย่างสมบูรณ์
  • การตกแต่งออฟฟิศจะมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ที่ดีและสะท้อนคุณค่าขององค์กร

สรุป

จัดพื้นที่ Hybrid Workplace ตามแนวคิด Diversity & Inclusion Spaces ไม่ใช่แค่เทรนด์ด้านการออกแบบ แต่คือการลงทุนระยะยาวที่สร้างวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแกร่งและพร้อมรับอนาคตของการทำงาน การมีพื้นที่ที่ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งและสามารถทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ คือหัวใจของการจัดพื้นที่ Hybrid Workplace ที่ประสบความสำเร็จที่ทุกองค์กรควรใส่ใจ ถ้าอยากเติบโตอย่างยั่งยืน

FAQ คำถามที่พบบ่อย

1. การสร้าง D&I Spaces จำเป็นต้องใช้งบประมาณสูงหรือไม่ และองค์กรขนาดเล็กจะเริ่มต้นได้อย่างไร

  • จัดพื้นที่ Hybrid Workplace ไม่จำเป็นต้องสร้างใหม่ทั้งหมด อาจเริ่มจากการปรับปรุงพื้นที่เดิม ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ยืดหยุ่น หรือจัดสรรพื้นที่มุมเล็กๆ ก่อน เน้นการรับฟังความต้องการและแก้ปัญหาที่สำคัญที่สุดก่อน งบประมาณสามารถปรับตามขนาดและความพร้อมขององค์กร

2. พื้นที่ D&I แตกต่างจากการออกแบบออฟฟิศแบบเปิด (Open Plan) ที่เคยนิยมอย่างไร

  • Open Plan เน้นการตกแต่งออฟฟิศทำงานร่วมกัน แต่ D&I Spaces ตระหนักว่าพนักงานมีความต้องการหลากหลายกว่านั้น จึงมีทั้งพื้นที่เปิด พื้นที่ปิด พื้นที่เงียบ พื้นที่พักผ่อน เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกคน ไม่ใช่แค่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และเน้นการ 'เลือก' ได้

3. จะวัดผลความสำเร็จของการจัดพื้นที่ D&I ในองค์กรได้อย่างไร

  • วัดผลผ่านการสำรวจความพึงพอใจของพนักงาน (Employee Satisfaction Survey) โดยเฉพาะคำถามเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม, สัมภาษณ์กลุ่ม (Focus Group), สังเกตการณ์ใช้งานพื้นที่, อัตราการรักษาพนักงาน (Retention Rate), และ Feedback โดยตรงจากพนักงาน
เพราะพื้นที่ที่ดี ไม่ไช่แค่รองรับการทำงาน แต่ต้องช่วยให้คุณทำงานได้เวิร์คขึ้น สนุกขึ้น และสมาร์ทยิ่งขึ้น ORBIX เฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบทุกพื้นที่ให้ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ ตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่แบบเต็มแม็กซ์! ไม่ว่า Activity Based Working จะเป็นแบบไหน ก็ลงตัวได้ในสไตล์คุณ มูฟไปพร้อมกับอนาคตของการทำงานยุคใหม่! พบกับ ORBIX ได้แล้ววันนี้ที่ Modernform Ploenchit หรือ คลิกดูรายละเอียดได้ที่นี่

Explore Products

แบบออฟฟิศสวยๆตามเทรนด์สี Pantone 2025

Next Inspired

แนะนำไอเดีย ตกแต่งภายในออฟฟิศ ตามเทรนด์สี Pantone 2025

ตามเทรนด์การตกแต่งภายในออฟฟิศด้วยไอเดียสี Pantone 2025 อย่าง Mocha Mousse สีแห่งความอบอุ่นเหมือนกาแฟยามเช้าและหรูหราดุจไม้ราคาแพง

Discover
แชร์