ตกแต่งภายในออฟฟิศ สไตล์ Loft สร้างบรรยากาศการทำงานที่ไม่เหมือนใคร
สร้างบรรยากาศห้องทำงานที่ไม่เหมือนใคร กับการตกแต่งภายในออฟฟิศสไตล์ Loft แฝงเอกลักษณ์ความดิบ เท่ ผสมสานกับความเรียบหรูอย่างลงตัว

สร้างบรรยากาศห้องทำงานที่ไม่เหมือนใคร กับการตกแต่งภายในออฟฟิศสไตล์ Loft แฝงเอกลักษณ์ความดิบ เท่ ผสมสานกับความเรียบหรูอย่างลงตัว ตกแต่งภายในออฟฟิศ สไตล์ Loft ด้วยความดิบ เท่ และมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้การตกแต่งภายในออฟฟิศสไตล์Loft ยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบัน ซึ่งสไตล์นี้สามารถเปลี่ยนพื้นที่ธรรมดาให้ดูโดดเด่นขึ้น เพิ่มความทันสมัย ทำให้น่านั่งทำงานแถมมีความผ่อนคลายไปในตัว หากองค์กรใดที่อยากลองเปลี่ยนออฟฟิศธรรมดาให้เป็นสไตล์ Loft เรามาทำความรู้จักสไตล์นี้กันให้มากขึ้น รวมถึงแนวคิด การเลือกวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสม ตามมาอ่านกันได้ในบทความนี้เลย
แนวคิดหลักของสไตล์ Loft
หากพูดถึงการตกแต่งออฟฟิศสไตล์ Loft หลายคนอาจนึกถึงผนังปูนเปลือย และการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีธรรมชาติ แต่ความจริงแล้วสไตล์ Loft มีดีเทลที่มากกว่านั้น โดยจะมีลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นคือมีเพดานสูงหรือเพดานไร้ฝ้า ดูโปร่ง ให้ความรู้สึกเหมือนโรงงานหรือโกดัง มีการเน้นโครงสร้างที่ชัดเจน เห็นโครงเหล็ก คาน ปูน หรือผนังอิฐ นอกจากนี้ยังจะมีการตกแต่งที่เน้นความโปร่ง โล่งสบาย มีพื้นที่ใช้สอยมาก การตกแต่งห้องสไตล์นี้ยังจึงนิยมทำห้องแบบ Open Plan ซึ่งสามารถ Mix & Match กับสไตล์อื่น ๆ ได้ด้วย ตัวอย่างการตกแต่งสไตล์ Loft ที่เป็นที่นิยม เช่น office interior design หรือ modern office เป็นต้น
การเลือกวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ สไตล์ Loft เป็นอย่างไร
สำหรับวัสดุและเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Loft นั้นจะเน้นเป็นวัสดุที่เห็นโครงสร้างชัดเจน ตัวอย่างเช่น ไม้ ปูนเปลือย ผนังอิฐ คาน หรือท่อเหล็ก เป็นต้น จะให้ความรู้สึกถึงโกดังหรือโรงงานเก่า สร้างบรรยากาศที่แปลกใหม่และน่านั่งทำงาน เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งก็สามารถเลือกได้หลากหลาย ตัวอย่างเช่น เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เคลื่อนย้ายสะดวกและมีสีธรรมชาติ หรือจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นความหรูหรา แต่แฝงด้วยความดิบ เท่ เป็นต้น โดยส่วนใหญ่แล้วการตกแต่งสไตล์นี้จะเน้นความโล่งสบาย สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย และมองมุมไหนก็สบายตา
การจัดพื้นที่ทำงานในสไตล์ Loft ควรคำนึงถึงเรื่องใดบ้าง
โดยปกติแล้วการตกแต่งภายในออฟฟิศเป็นแบบสไตล์ สไตล์ Loft นั้น มีการคำนึงถึงการสร้างพื้นที่ที่เปิดกว้างและเชื่อมโยงกัน เน้นพื้นที่ใช้งานที่คุ้มค่าหรือพื้นที่จำกัดแต่มีครบทุกโซน อาจมีการใช้โต๊ะทำงานร่วมกัน มีพื้นที่นั่งเล่นภายในห้อง รวมถึงมีการจัดแสงและสีให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายตา เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากจะเป็นการใช้พื้นที่จำกัดให้คุ้มค่าแล้ว ยังเป็นการใช้งบประมาณที่มีอย่างคุ้มค่าและสร้างมูลค่าทางจิตใจได้ด้วย
How-to สร้าง Recreation Space สไตล์ Loft ให้น่าใช้งาน
นอกจากการ ตกแต่งภายในออฟฟิศ ในโซนทำงานแล้ว พื้นที่พักผ่อน (Recreation Space) ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การนำสไตล์ลอฟท์มาปรับใช้กับโซนนี้จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ได้อย่างยอดเยี่ยม
1. จัดวางเลย์เอาต์แบบเปิด (Open-plan Layout)
หัวใจของสไตล์ลอฟท์คือความโปร่งโล่ง ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสร้างพื้นที่พักผ่อนที่ไม่จำเจ แทนที่จะใช้ผนังทึบ ให้ใช้เฟอร์นิเจอร์เป็นตัวกำหนดโซนการใช้งานต่างๆ อย่างชาญฉลาด เช่น จัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่เพื่อสร้างโซนสำหรับการนั่งคุยสังสรรค์, วางโต๊ะบาร์ทรงสูงพร้อมเก้าอี้สตูลไว้ริมหน้าต่างสำหรับเป็นมุมพักดื่มกาแฟ, และจัดอาร์มแชร์นุ่มๆ พร้อมโคมไฟตั้งพื้นในมุมสงบสำหรับคนที่ต้องการอ่านหนังสือ ความโปร่งโล่งของพื้นที่นี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดความรู้สึกอึดอัด แต่ยังกระตุ้นให้เกิดการปฏิสัมพันธ์และการพูดคุยกันอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นการชาร์จพลังงานทางสังคมที่ดีเยี่ยม
2. เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ลงตัวระหว่างความเท่และความสบาย
เฟอร์นิเจอร์ในโซนพักผ่อนต้องส่งสัญญาณให้ผู้ใช้งานรับรู้ว่า "นี่คือพื้นที่สำหรับการผ่อนคลาย" ควรมีไอเทมชิ้นเด่นอย่างโซฟาหนังดีไซน์เท่ที่เชื้อเชิญให้ทิ้งตัวลงนั่ง เสริมด้วยอาร์มแชร์บุผ้าเพื่อเพิ่มความนุ่มนวล จัดวางชั้นวางของที่ทำจากเหล็กและไม้สำหรับวางหนังสือหรือของตกแต่ง และเลือกโต๊ะกลางที่มีดีไซน์ดิบๆ เข้ากับธีม การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่นั่งสบายและมีลักษณะไม่เป็นทางการเท่าโต๊ะทำงาน เป็นการส่งสัญญาณให้ทั้งร่างกายและสมองรับรู้ว่านี่คือเวลาพักผ่อนอย่างแท้จริง
3. เติมกิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวก
พื้นที่พักผ่อนที่ดีควรมีมากกว่าแค่ที่นั่ง ลองสร้างมุมแพนทรีเล็กๆ ที่มีเคาน์เตอร์บาร์ พร้อมเครื่องชงกาแฟและตู้เย็นสำหรับเครื่องดื่ม จัดเตรียมกิจกรรมที่ช่วยละลายพฤติกรรม เช่น ตู้เก็บของที่เต็มไปด้วยบอร์ดเกม, โต๊ะพูล, หรือโต๊ะฟุตบอล และสร้างชั้นหนังสือที่มีนิตยสารหรือหนังสือหลากหลายแนว กิจกรรมเหล่านี้เป็นเครื่องมือชั้นดีที่ช่วยให้พนักงานได้ละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์, ได้เคลื่อนไหวร่างกาย และมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานในมิติอื่นๆ นอกเหนือจากเรื่องงาน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการฟื้นฟูพลังสมอง (Mental Recharge)
4. เพิ่มความอบอุ่นด้วยของตกแต่งและพื้นที่สีเขียว
เพื่อไม่ให้สไตล์ลอฟท์ดูแข็งกระด้างจนเกินไป การเพิ่มองค์ประกอบที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นจึงเป็นสิ่งจำเป็น ลองใช้พรมผืนใหญ่ที่มีลวดลายสวยงามปูในโซนโซฟาเพื่อเพิ่มความนุ่มนวลและช่วยดูดซับเสียง ติดตั้งภาพศิลปะหรือโปสเตอร์กราฟิกเท่ๆ บนผนังอิฐเพื่อสร้างจุดนำสายตา และที่สำคัญที่สุดคือการเติมชีวิตชีวาด้วยพื้นที่สีเขียว การวางต้นไม้ฟอกอากาศขนาดใหญ่ เช่น ยางอินเดีย หรือมอนสเตอร่า ตามมุมต่างๆ จะช่วยสร้างคอนทราสต์ที่สวยงามกับวัสดุที่ดิบเท่ ซึ่งมีผลวิจัยรองรับว่าสีเขียวจากต้นไม้สามารถช่วยลดความเครียดและความเมื่อยล้าทางสายตาได้อย่างดีเยี่ยม
คำถามที่พบบ่อย
ออฟฟิศสไตล์ลอฟท์ที่มีเพดานสูงและผนังแข็งจะเสียงดังเกินไปหรือไม่? มีวิธีแก้ไขอย่างไร?
เป็นความท้าทายสำคัญของดีไซน์นี้ สามารถแก้ไขได้โดยการใช้วัสดุดูดซับเสียง เช่น การปูพรมในบางพื้นที่, การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์บุผ้าอย่างโซฟา, การติดตั้งม่าน, การใช้แผ่นซับเสียง (Acoustic Panel) ที่มีดีไซน์สวยงามประดับผนัง หรือแม้แต่การจัดวางตู้หนังสือขนาดใหญ่ ก็สามารถช่วยลดเสียงก้องได้
ออฟฟิศสไตล์ลอฟท์เหมาะกับธุรกิจประเภทไหนเป็นพิเศษ?
สไตล์นี้เป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มธุรกิจที่ต้องการส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม เช่น บริษัทโฆษณา, Digital Agency, บริษัทออกแบบ, สตาร์ทอัพสายเทคโนโลยี, Co-working Space และธุรกิจที่ต้องการสร้างบรรยากาศการทำงานที่เปิดกว้างและเป็นกันเอง
การตกแต่งภายในออฟฟิศในสไตล์ Loft ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างบรรยากาศที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์ แต่ยังสามารถกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแน่นอนว่าการตกแต่งออฟฟิศสไตล์ Loft เป็นส่วนหนึ่งที่เติมสีสันให้ชีวิตการทำงานของเราได้ด้วยเช่นกัน หากองค์กรใดอยากเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานให้น่าอยู่และสร้างเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร สามารถออกแบบออฟฟิศกับ Smart Workplace Solution ที่นี่ ออฟฟิศในฝันสร้างไม่ยากอย่างที่คิด