Hybrid Workplace & Cybersecurity ทำงานหลายที่ ข้อมูลต้องไม่รั่วไหล

พูดถึงแนวทางปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางไซเบอร์ในทุกสภาพแวดล้อมการทำงานในยุค Hybrid Workplace ไปจนถึงการ จัดพื้นที่ออฟฟิศ

modern office ที่ดี ข้อมูลต้องไม่รั่วไหล

การทำงานแบบ Hybrid Workplace ที่ผสมผสานระหว่างการทำงานในออฟฟิศและรีโมทได้กลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ขององค์กรทั่วโลก แม้จะมอบความยืดหยุ่นและเพิ่มความพึงพอใจให้พนักงาน แต่มันก็มาพร้อมกับความท้าทายด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่ซับซ้อนขึ้นอย่างมหาศาล การรักษาข้อมูลสำคัญของบริษัทให้ปลอดภัยเมื่อพนักงานกระจายตัวทำงานจากทุกที่จึงไม่ใช่แค่เรื่องของฝ่ายไอทีอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องที่ต้องวางแผนอย่างบูรณาการ ตั้งแต่การสร้างวัฒนธรรมองค์กรไปจนถึงการจัดพื้นที่ออฟฟิศให้พร้อมรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกมิติของการสร้าง Hybrid Workplace ที่ปลอดภัย ทำความเข้าใจว่าภัยคุกคามเปลี่ยนไปอย่างไร และจะปรับตัวทั้งในด้านบุคลากร, พื้นที่ทำงาน และเทคโนโลยีได้อย่างไร เพื่อให้องค์กรของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยที่ข้อมูลไม่รั่วไหล 

Modern Office ไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องปลอดภัย

แนวคิดของ modern office ในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความสวยงามหรือการมีพื้นที่ส่วนกลางเก๋ๆ เท่านั้น แต่ต้องถูกออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก การจัดพื้นที่ออฟฟิศที่ดี จะช่วยลดความเสี่ยงได้โดยไม่รู้ตัว พื้นที่ทำงานใน modern office ควรถูกแบ่งโซนอย่างชัดเจน เช่น "โซนทำงานทั่วไป" สำหรับงานที่ไม่ต้องการความลับสูง และ "โซนปลอดภัย (Secure Zone)" ที่มีมาตรการควบคุมการเข้าถึงที่เข้มงวดกว่า สำหรับแผนกที่ต้องจัดการข้อมูลอ่อนไหว เช่น ฝ่ายการเงิน, กฎหมาย หรือ R&D

การออกแบบและติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ที่ส่งเสริม Cybersecurity

รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างการเลือกและติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถสร้างความแตกต่างด้านความปลอดภัยได้อย่างไม่น่าเชื่อ การจัดพื้นที่ออฟฟิศที่ดีต้องคำนึงถึงเรื่องนี้

โต๊ะทำงานพร้อมแผงกั้น: การติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ที่มีแผงกั้นความเป็นส่วนตัว (Privacy Screen) ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกแอบมองหน้าจอได้

ตู้เก็บของแบบล็อกได้: จัดเตรียมตู้ล็อกเกอร์ที่ปลอดภัยให้พนักงานสำหรับเก็บแล็ปท็อปและเอกสารสำคัญเมื่อไม่ได้ใช้งาน

การจัดวางตำแหน่ง: การวางโต๊ะทำงานไม่ควรหันหน้าจอออกสู่ทางเดินหรือพื้นที่สาธารณะ การติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ และการวางผังที่ดีคือส่วนหนึ่งของการออกแบบเพื่อความปลอดภัย 

Secure Docking Stations: ในพื้นที่ Hot Desk ควรมีจุดเชื่อมต่ออุปกรณ์ (Docking Station) ที่ปลอดภัยและเชื่อมต่อกับเครือข่ายของบริษัทโดยตรง การลงทุนในการจัดพื้นที่ออฟฟิศ และการ ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์** ที่เหมาะสม คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมพฤติกรรมที่ปลอดภัยให้กับพนักงานโดยอัตโนมัติ 

ภัยคุกคามไซเบอร์ในยุค Hybrid Workplace

ในอดีต การรักษาความปลอดภัยไซเบอร์อาจเปรียบเสมือนการป้องกันปราสาทที่มีกำแพงหนาแน่น แต่ในยุค Hybrid Workplace "กำแพง" นั้นได้หายไปแล้ว พนักงานกลายเป็นจุดเชื่อมต่อที่กระจายตัวอยู่ทุกหนแห่ง ทำให้เกิดช่องโหว่ใหม่ๆ ที่แฮกเกอร์จ้องจะโจมตี อาทิ 

การโจมตีแบบฟิชชิ่ง (Phishing)

พนักงานที่ทำงานคนเดียวอาจขาดการตรวจสอบซึ่งกันและกัน ทำให้ตกเป็นเป้าของการหลอกลวงผ่านอีเมลหรือข้อความได้ง่ายขึ้น

เครือข่าย Wi-Fi ที่ไม่ปลอดภัย

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากที่บ้านหรือร้านกาแฟมีความเสี่ยงสูงกว่าเครือข่ายที่ควบคุมได้ในออฟฟิศ

การใช้อุปกรณ์ส่วนตัว (BYOD - Bring Your Own Device)

แม้จะสะดวก แต่หากอุปกรณ์ของพนักงานไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยที่ดีพอ ก็อาจกลายเป็นประตูหลังให้ผู้ไม่หวังดีเข้ามาได้

ความเสี่ยงทางกายภาพ

การถูกแอบมองหน้าจอ (Shoulder Surfing) ในที่สาธารณะ หรือการทำเอกสารสำคัญหายระหว่างเดินทาง ล้วนเป็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น การรับมือกับภัยคุกคามเหล่านี้จึงต้องการแนวทางที่มากกว่าแค่การติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัส แต่ต้องเริ่มจากการสร้างปราการด่านแรกที่แข็งแกร่งที่สุด นั่นคือเหล่าบรรดาพนักงานที่เป็นมนุษย์นี่แหละ เพราะไม่ว่าเทคโนโลยีจะล้ำสมัยแค่ไหน “คน" ยังคงเป็นด่านแรกและด่านที่อ่อนแอที่สุดในห่วงโซ่ความปลอดภัย การให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ด้าน Security Awareness ให้กับพนักงานทุกคนจึงเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดในการป้องกันข้อมูลรั่วไหล

เทคโนโลยีจำเป็นที่ต้องมีในยุคไฮบริด

นอกเหนือจากการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของ "คน" แล้ว การ ติดตั้งเทคโนโลยี ที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการสร้างเกราะป้องกันดิจิทัลที่แข็งแกร่งสำหรับ Hybrid Workplace

VPN (Virtual Private Network)

VPN ทำหน้าที่เป็นอุโมงค์ที่เข้ารหัสข้อมูล ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ของพนักงานกับเครือข่ายขององค์กรมีความปลอดภัย ไม่ว่าพนักงานจะทำงานจากที่บ้าน ร้านกาแฟ หรือต่างประเทศ การใช้ VPN ช่วยให้มั่นใจว่าข้อมูลที่ส่งและรับจะไม่ถูกดักจับหรืออ่านได้โดยผู้ไม่หวังดี ถือเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ทุกองค์กรในยุค Hybrid Workplace ควรมี

MFA (Multi-Factor Authentication)

MFA หรือการยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย เป็นการเพิ่มชั้นความปลอดภัยอีกขั้นนอกเหนือจากการใช้รหัสผ่าน พนักงานจะต้องยืนยันตัวตนด้วยวิธีการอย่างน้อยสองวิธี เช่น รหัสผ่านและรหัส OTP จากแอปพลิเคชันบนมือถือ หรือการสแกนลายนิ้วมือ การใช้ MFA ช่วยลดความเสี่ยงที่บัญชีจะถูกเจาะได้เป็นอย่างมาก แม้แฮกเกอร์จะรู้รหัสผ่านก็ตาม

Endpoint Security

Endpoint Security คือการปกป้องอุปกรณ์ปลายทางทั้งหมดที่พนักงานใช้ในการเข้าถึงข้อมูลองค์กร ไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อป แท็บเล็ต หรือสมาร์ทโฟน การ ติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและมัลแวร์ ที่มีประสิทธิภาพบนอุปกรณ์เหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อตรวจจับ ป้องกัน และกำจัดภัยคุกคามต่างๆ ที่อาจเข้ามาทำลายข้อมูลหรือเปิดช่องให้เกิดการรั่วไหล นอกจากนี้ ควรมีนโยบายบังคับให้อัปเดตซอฟต์แวร์และระบบปฏิบัติการให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ เพื่ออุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย

เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหลและกำหนดสิทธิ์การใช้งานได้อย่างเหมาะสม การเลือกใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ควรทำควบคู่ไปกับการวางแผนด้านบุคลากรและการจัดพื้นที่ออฟฟิศเพื่อให้ทุกส่วนทำงานสอดประสานกันอย่างลงตัว

modern office

สรุป

ในยุคของ Hybrid Workplace ที่การทำงานไม่จำกัดอยู่แค่ในออฟฟิศอีกต่อไป การปกป้องข้อมูลองค์กรให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญสูงสุด ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่เป็นการบูรณาการมาตรการต่างๆ อย่างรอบด้าน เริ่มต้นจากการเสริมสร้าง Security Awareness ให้กับ "คน" ซึ่งเป็นด่านแรกของการป้องกัน ไปจนถึงการ ติดตั้งเทคโนโลยี ดิจิทัลที่จำเป็น การ จัดพื้นที่ออฟฟิศ และการ ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ ใน modern office ที่คำนึงถึงความปลอดภัยทางกายภาพ และสุดท้ายคือการวาง นโยบายที่รัดกุม พร้อมแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน การผสมผสานแนวทางเหล่านี้อย่างเป็นระบบ จะช่วยสร้างเกราะป้องกันที่แข็งแกร่ง มั่นใจได้ว่าข้อมูลสำคัญขององค์กรจะไม่รั่วไหล ไม่ว่าพนักงานของคุณจะทำงานอยู่ที่ไหนก็ตาม

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: ทำไม "คน" ถึงเป็นด่านแรกที่สำคัญที่สุดในเรื่อง Cybersecurity ของ Hybrid Workplace? 

A: เพราะไม่ว่าเทคโนโลยีจะล้ำสมัยเพียงใด "คน" ก็ยังคงเป็นจุดอ่อนที่สุดในระบบความปลอดภัย หากพนักงานขาดความตระหนักรู้ หรือไม่ปฏิบัติตามหลักปฏิบัติที่ปลอดภัย ก็อาจเปิดช่องให้เกิดการโจมตีหรือข้อมูลรั่วไหลได้ง่าย ดังนั้นการสร้าง Security Awareness และการฝึกอบรมพนักงานจึงเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุด

Q: นอกจากเทคโนโลยีแล้ว การจัดพื้นที่ออฟฟิศมีส่วนช่วยเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลได้อย่างไร? 

A: การ จัดพื้นที่ออฟฟิศ มีบทบาทสำคัญในการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลทางกายภาพ (Physical Security) เช่น การป้องกัน Visual Hacking (การแอบมองหน้าจอ) โดยการวางตำแหน่งโต๊ะทำงานไม่ให้หันออกสู่ทางเดิน หรือการ ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ อย่างตู้ล็อกเกอร์และ Privacy Screen บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่ข้อมูลจะถูกเข้าถึงหรือมองเห็นโดยผู้ไม่ได้รับอนุญาตใน modern office

Q: องค์กรควรมีนโยบายอะไรบ้างเพื่อเสริมสร้าง Cybersecurity ในยุค Hybrid Work? 

A: องค์กรควรมีนโยบายที่รัดกุม เช่น Remote Work Policy ที่ครอบคลุมข้อปฏิบัติด้านความปลอดภัย, Data Classification (การจำแนกประเภทข้อมูล) เพื่อกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงที่เหมาะสม, และ Incident Response Plan (แผนรับมือเหตุฉุกเฉิน) เพื่อลดความเสียหายหากเกิดเหตุข้อมูลรั่วไหล ทั้งหมดนี้ช่วยให้พนักงานมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนและองค์กรพร้อมรับมือกับภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพ

modern office


เพราะพื้นที่ที่ดี ไม่ไช่แค่รองรับการทำงาน แต่ต้องช่วยให้คุณทำงานได้เวิร์คขึ้น สนุกขึ้น และสมาร์ทยิ่งขึ้น ORBIX เฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบทุกพื้นที่ให้ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ ตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่แบบเต็มแม็กซ์! ไม่ว่า Activity Based Working จะเป็นแบบไหน ก็ลงตัวได้ในสไตล์คุณ มูฟไปพร้อมกับอนาคตของการทำงานยุคใหม่! พบกับ ORBIX ได้แล้ววันนี้ที่ Modernform Ploenchit หรือ คลิกดูรายละเอียดได้ที่นี่

Explore Products

จัดพื้นที่ทำงาน Hot Desk

Next Inspired

ทำความรู้จัก Hot Desk แนวทางการจัดพื้นที่ทำงานที่ยืดหยุ่นและสร้างสรรค์

ในยุคที่การทำงานสามารถเกิดขึ้นได้จากทุกที่และการสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ Hot Desk กลายเป็นแนวทางการ จัดพื้นที่ทำงาน ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนทำงานยุคใหม่

Discover
แชร์