ลดเสียงรบกวนในห้องประชุม Open Space ด้วยเทคโนโลยี Acoustic Design
บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกเทคนิค Acoustic Design เพื่อ ออกแบบห้องประชุม ที่เงียบสงบและมีประสิทธิภาพสูงสุด! ด้วยเทคโนโลยีและวัสดุที่เหมาะสม

ในยุคของ modern office ที่เน้นการออกแบบแบบ Open Space เพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกันและความโปร่งโล่ง สิ่งหนึ่งที่มักจะตามมาคือปัญหา เสียงรบกวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากห้องประชุมที่เสียงพูดคุยอาจเล็ดลอดออกมาสร้างความรำคาญให้กับทีมที่ทำงานอยู่รอบข้าง และเสียงก้องภายในห้องเองก็ทำให้การประชุมไม่ราบรื่น ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Acoustic Design หรือการออกแบบที่เน้นการควบคุมเสียง บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจประเภทของเสียงที่ต้องจัดการ และกลยุทธ์ 3 ประการในการ ออกแบบห้องประชุม ใน Open Space เพื่อลดเสียงรบกวนอย่างมีประสิทธิภาพ
ทำไมเสียงรบกวนจึงเป็นปัญหาใหญ่ในออฟฟิศ Open Space?
ออฟฟิศแบบเปิดโล่งส่งเสริมการทำงานร่วมกันก็จริง แต่ก็มาพร้อมกับข้อเสียด้านเสียงที่หลีกเลี่ยงได้ยาก เสียงพูดคุย เสียงโทรศัพท์ หรือแม้แต่เสียงเดินไปมา สามารถสร้างมลภาวะทางเสียงที่ส่งผลกระทบมากกว่าที่คิด:
- ลดทอนสมาธิและประสิทธิภาพ: เสียงรบกวนเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้พนักงานเสียสมาธิ ส่งผลให้งานล่าช้าและเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย
- ขาดความเป็นส่วนตัว: การประชุมที่ต้องการความเป็นส่วนตัวหรือหารือข้อมูลที่เป็นความลับกลายเป็นเรื่องยาก เมื่อเสียงสามารถเล็ดลอดออกไปภายนอกได้
- สร้างความเครียด: การต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังตลอดเวลาส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของพนักงานในระยะยาว
การลงทุนในการ ออกแบบห้องประชุม โดยใช้หลัก Acoustic Design จึงเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำงานที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง
Acoustic Design คืออะไร? กุญแจสำคัญสู่การออกแบบห้องประชุมที่เงียบสงบ
Acoustic Design (การออกแบบสวนศาสตร์) คือ การประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อควบคุมการเดินทางของเสียงภายในอาคาร ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันเสียงจากภายนอก หรือการจัดการเสียงสะท้อนภายในห้อง เป้าหมายคือการสร้างคุณภาพเสียงที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้งานของพื้นที่นั้นๆ
สำหรับการ ออกแบบห้องประชุม ในออฟฟิศ Open Space เราจะเน้นที่กลยุทธ์ "ABC" ซึ่งเป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล:
- A - Absorb (การดูดซับเสียง): ลดเสียงก้อง เสียงสะท้อนภายในห้อง
- B - Block (การปิดกั้นเสียง): ป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกไม่ให้เข้ามา และป้องกันเสียงประชุมไม่ให้ออกไป
- C - Cover (การกลบเสียง): ใช้เทคโนโลยีเพื่อกลบเสียงสนทนาที่ไม่พึงประสงค์
กลยุทธ์ที่ 1: การปิดกั้นเสียง
การปิดกั้นเสียงคือด่านแรกและสำคัญที่สุดในการสร้างความเป็นส่วนตัวให้ห้องประชุม โดยมีเป้าหมายเพื่อหยุดยั้งเสียงไม่ให้เดินทางผ่านผนัง ประตู หรือช่องว่างต่างๆ การ ออกแบบห้องประชุม ที่ดีต้องเริ่มต้นจากโครงสร้างที่แข็งแรง
การเลือกใช้วัสดุผนังและประตู
ผนังเบาทั่วไปอาจไม่เพียงพอ ควรเลือกใช้ผนังที่มีค่า STC (Sound Transmission Class) สูง ซึ่งเป็นค่าที่บ่งบอกความสามารถในการป้องกันเสียง ยิ่งค่าสูงยิ่งกันเสียงได้ดี การใช้ผนังยิปซัมซ้อนกัน 2 ชั้นโดยมีฉนวนกันเสียงคั่นกลาง หรือการใช้ผนังกระจก 2 ชั้น (Double-Glazed) เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับงาน ออกแบบห้องประชุม สมัยใหม่ เช่นเดียวกับประตูที่ควรเป็นแบบบานทึบ (Solid Core) และมีซีลยางกันเสียงรอบขอบบาน
การซีลช่องว่างและรอยรั่ว
เสียงเปรียบเสมือนน้ำ สามารถรั่วไหลผ่านช่องว่างเล็กๆ ได้เสมอ การตรวจสอบและอุดรอยต่อระหว่างผนังกับฝ้าเพดาน ผนังกับพื้น รวมถึงรอบกรอบประตูและหน้าต่างด้วยวัสดุอุดรอยต่อ (Acoustic Sealant) จึงเป็นขั้นตอนที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด
กลยุทธ์ที่ 2: การดูดซับเสียง ลดเสียงก้องสะท้อนภายในห้อง
เมื่อปิดกั้นเสียงจากภายนอกได้แล้ว ขั้นต่อไปคือการจัดการกับเสียงที่เกิดขึ้น "ภายใน" ห้องประชุมเอง พื้นผิวแข็ง เช่น ผนังปูน กระจก หรือ โต๊ะห้องประชุม ขนาดใหญ่ จะทำให้เกิดเสียงก้องสะท้อน (Reverberation) ทำให้เสียงพูดไม่ชัดเจนและฟังดูน่ารำคาญ
วัสดุตกแต่งผนังและเพดาน
การติดตั้งวัสดุที่มีคุณสมบัติดูดซับเสียงเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ตรงจุดที่สุด วัสดุเหล่านี้มีพื้นผิวอ่อนนุ่มและมีรูพรุน ช่วยดักจับคลื่นเสียงไม่ให้สะท้อนกลับไปมา ตัวอย่างเช่น:
- แผ่นซับเสียง (Acoustic Panel): สามารถติดตั้งบนผนังหรือฝ้าเพดาน มีหลากหลายดีไซน์ให้เลือกเข้ากับการตกแต่ง
- ฝ้าเพดานอะคูสติก (Acoustic Ceiling Tiles): ฝ้าที-บาร์ที่ใช้แผ่นฝ้าแบบดูดซับเสียง ช่วยลดเสียงก้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- พรมและผ้าม่าน: การปูพรมหนาๆ และการใช้ผ้าม่านเนื้อหนาก็เป็นวิธีที่ช่วยดูดซับเสียงได้ดีเช่นกัน
ความสำคัญของเฟอร์นิเจอร์: การเลือก โต๊ะห้องประชุม และอื่นๆ
เฟอร์นิเจอร์ก็มีผลต่อเสียงในห้องอย่างไม่น่าเชื่อ การเลือก โต๊ะห้องประชุม ที่มีพื้นผิวแข็งและมันวาวจะสะท้อนเสียงได้ดี ควรพิจารณาเลือกใช้ โต๊ะห้องประชุม ที่ทำจากวัสดุที่ช่วยลดการสะท้อนของเสียง หรือใช้เฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ที่มีส่วนประกอบของผ้า เช่น เก้าอี้บุผ้า หรือโซฟา เพื่อช่วยเพิ่มพื้นผิวในการดูดซับเสียง นี่เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในการ ออกแบบห้องประชุม ที่สร้างความแตกต่างได้อย่างมาก
กลยุทธ์ที่ 3: การกลบเสียง สร้างเกราะป้องกันเสียงด้วยเทคโนโลยี
ในบางกรณี แม้จะใช้กลยุทธ์การปิดกั้นและดูดซับเสียงอย่างเต็มที่แล้ว แต่เสียงพูดที่เบาๆ ก็ยังอาจเล็ดลอดออกมาสร้างความรำคาญในพื้นที่ทำงานที่เงียบสงบได้ นี่คือจุดที่เทคโนโลยี Sound Masking เข้ามามีบทบาทสำคัญ
ระบบ Sound Masking ทำงานอย่างไร?
Sound Masking ไม่ใช่การเปิดเสียง White Noise แต่เป็นระบบที่ปล่อยคลื่นเสียงความถี่ต่ำที่ถูกปรับแต่งมาอย่างดี (คล้ายเสียงลมของเครื่องปรับอากาศ) ออกมาผ่านลำโพงที่ติดตั้งไว้เหนือฝ้าเพดาน เสียงนี้จะผสมกลมกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง และทำหน้าที่ "กลบ" เสียงสนทนาของมนุษย์ ทำให้เสียงพูดที่เล็ดลอดออกมาจากห้องประชุมกลายเป็นเสียงที่ฟังไม่รู้เรื่องและไม่รบกวนสมาธิ
ผสาน Sound Masking กับการ จัดโต๊ะทํางาน ออฟฟิศ ภายนอก
ประสิทธิภาพสูงสุดของ Sound Masking จะเกิดขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับการวางผังและ จัดโต๊ะทํางาน ออฟฟิศ อย่างมีกลยุทธ์ ควรวางแผนผังโดยให้โซนที่ต้องการความเงียบสงบอยู่ห่างจากห้องประชุม หรือใช้ตู้เก็บเอกสารและชั้นวางของเป็นฉากกั้นตามธรรมชาติ การผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับการ จัดโต๊ะทํางาน ออฟฟิศ ที่ชาญฉลาด จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่สมบูรณ์แบบ ทั้งในและนอกห้องประชุม
สร้างสมดุลที่ลงตัวให้ห้องประชุมและพื้นที่ทำงาน
สรุปการแก้ปัญหาเสียงรบกวนในห้องประชุมแบบ Open Space ไม่ได้มีวิธีแก้สำเร็จรูปเพียงวิธีเดียว แต่ต้องอาศัยการผสมผสานกลยุทธ์ "ABC" อย่างลงตัว ตั้งแต่การ ออกแบบห้องประชุม ที่มีโครงสร้างป้องกันเสียง (Block), การใช้วัสดุดูดซับเสียงก้องภายใน (Absorb) ซึ่งรวมถึงการเลือก โต๊ะห้องประชุม ที่เหมาะสม, ไปจนถึงการใช้เทคโนโลยี Sound Masking (Cover) ร่วมกับการ จัดโต๊ะทํางาน ออฟฟิศ อย่างมีแบบแผน
FAQ (คำถามที่พบบ่อย)
1. แผ่นซับเสียง (Acoustic Panel) จำเป็นแค่ไหนในการออกแบบห้องประชุม?
ตอบ: จำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในห้องที่มีผนังกระจกหรือผนังปูนเปลือยจำนวนมาก แผ่นซับเสียงช่วยลดเสียงก้องสะท้อนได้อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เสียงสนทนาในที่ประชุมมีความชัดเจนและน่าฟังมากขึ้น เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการ ออกแบบห้องประชุม ที่มีคุณภาพ
2. การเลือก โต๊ะห้องประชุม มีผลต่อเสียงในห้องจริงหรือ?
ตอบ: มีผลจริงครับ โต๊ะห้องประชุม ที่มีขนาดใหญ่และมีพื้นผิวแข็ง เช่น กระจกหรือไม้ขัดมัน จะสะท้อนคลื่นเสียงได้ดี ทำให้เกิดเสียงก้องได้ง่าย การเลือกโต๊ะที่ทำจากวัสดุลดการสะท้อน หรือการปูผ้าปูโต๊ะ ก็สามารถช่วยลดปัญหานี้ได้ในระดับหนึ่ง
3. การลงทุนใน Acoustic Design คุ้มค่าหรือไม่?
ตอบ: คุ้มค่าอย่างยิ่ง การลงทุนในการ ออกแบบห้องประชุม และสภาพแวดล้อมทางเสียงที่ดี จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดความผิดพลาด สร้างความเป็นส่วนตัว และส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีของพนักงาน ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลประกอบการขององค์กรในระยะยาว

การ ออกแบบห้องประชุม ที่สามารถป้องกันและควบคุมเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในหลักการ Acoustic Design อย่างลึกซึ้ง การผสมผสานทั้งศาสตร์และศิลป์ในการเลือกใช้วัสดุ เทคโนโลยี และการจัดวางที่เหมาะสม คือกุญแจสู่การสร้างพื้นที่ประชุมที่สมบูรณ์แบบและส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานที่ดี
ออกแบบ Smart Office เปลี่ยนทุกสเปซให้ Make Sense พบกับโต๊ะและเก้าอี้ทำงานดีไซน์ใหม่เพื่อการทำงานที่สมูทยิ่งขึ้นที่โชว์รูม Modernform หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่ Call Center 0-2094-9999 หรือ ผ่านทาง Line Official Account ของ Modernform