Recharge Room พื้นที่ 'ชาร์จพลังใจ' เทรนด์ใหม่ที่ modern office ต้องมี

Recharge Room เทรนด์สำคัญที่ modern office ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ ทำไมจึงสำคัญต่อสุขภาพจิตของพนักงาน และต่างจากห้องสันทนาการทั่วไปอย่างไร

ออกแบบสำนักงานให้มีพื้นที่ชาร์จพลังใจ

สังคมการทำงานที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ ความกดดัน และข้อมูลที่หลั่งไหลเข้ามาไม่หยุดหย่อน พนักงานจำนวนมากต้องเผชิญกับภาวะ Sensory Overload หรือการรับรู้สิ่งกระตุ้นมากเกินไป ซึ่งนำไปสู่ความเครียด ความเหนื่อยล้า และภาวะ Burnout ในที่สุด องค์กรชั้นนำทั่วโลกจึงเริ่มมองหาวิธีการใหม่ๆ ในการดูแลสุขภาวะทางจิตใจของพนักงาน และหนึ่งในเทรนด์ที่กำลังมาแรงและเป็นที่จับตามองคือการสร้าง Recharge Room หรือพื้นที่สำหรับ "ชาร์จพลังใจ" ใน modern office บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Recharge Room ว่าคืออะไร ทำไมถึงสำคัญ และจะ ออกแบบสำนักงาน เพื่อสร้างพื้นที่แห่งความสงบนี้ได้อย่างไร

Recharge Room คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ

หลายคนอาจสับสนระหว่าง Recharge Room กับห้องสันทนาการ (Break Room) ที่มีโต๊ะปิงปอง โต๊ะพูล หรือเครื่องเกมคอนโซล แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งสองห้องมีเป้าหมายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ห้องสันทนาการ เน้นการสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคม และการผ่อนคลายผ่านกิจกรรมที่กระฉับกระเฉง ซึ่งอาจมีเสียงดังและสิ่งเร้ามากมาย

ห้องชาร์จพลังใจ เน้นความสงบ การตัดขาดจากสิ่งรบกวน และการฟื้นฟูจากภายใน (Mindful Rest) เป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง หัวใจของการออกแบบสำนักงานให้มี Recharge Room คือการสร้างโอเอซิสแห่งความสงบใจกลางออฟฟิศที่วุ่นวาย เพื่อให้พนักงานได้ "ชาร์จแบต" ให้กับสมอง ไม่ใช่แค่ร่างกาย 

ทำไมการ ออกแบบสำนักงาน ยุคใหม่ต้องมี Recharge Room?

การลงทุนสร้างพื้นที่นี้ไม่ได้เป็นเพียงสวัสดิการเสริมสวยๆ แต่เป็นการลงทุนที่ส่งผลดีต่อองค์กรในระยะยาวอย่างมหาศาล ทั้งในด้านประสิทธิภาพการทำงานและวัฒนธรรมองค์กร นี่คือเหตุผลสำคัญว่าทำไมการออกแบบสำนักงานของคุณจึงควรมีพื้นที่นี้

1. ฟื้นฟูสมอง ลดภาวะหมดไฟ (Burnout)

การทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานานทำให้สมองล้าและประสิทธิภาพลดลง การได้พักในพื้นที่สงบเพียง 15-20 นาที ช่วยให้สมองได้จัดเรียงข้อมูล ลดความเครียด และป้องกันภาวะหมดไฟได้อย่างมีนัยสำคัญ พนักงานที่ได้พักอย่างเพียงพอจะกลับมาพร้อมกับสมาธิและความสามารถในการแก้ปัญหาที่ดีขึ้น

2. กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม

ไอเดียดีๆ มักเกิดขึ้นเมื่อสมองได้ผ่อนคลายและไม่ถูกกดดัน Recharge Room เปิดโอกาสให้พนักงานได้ปล่อยวางจากปัญหางานตรงหน้าชั่วคราว ซึ่งมักเป็นช่วงเวลาที่ "ยูเรก้าโมเมนต์" หรือความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ จะผุดขึ้นมา การตกแต่งออฟฟิศที่เอื้อต่อการพักผ่อนจึงเท่ากับเป็นการลงทุนในนวัตกรรมขององค์กร

3. เพิ่มความผูกพันต่อองค์กร (Employee Engagement)

การจัดสรรพื้นที่สำหรับ Recharge Room เป็นการส่งสารที่ชัดเจนว่า "บริษัทใส่ใจในสุขภาวะของคุณ" สิ่งนี้ช่วยสร้างความรู้สึกขอบคุณและความผูกพันต่อองค์กร ทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทที่ให้ความสำคัญกับ "คน" มากกว่า "ผลงาน" เพียงอย่างเดียว ซึ่งนำไปสู่การลดอัตราการลาออก (Turnover Rate) ในระยะยาว 

ไอเดียสร้าง Recharge Room สำหรับ ออกแบบสำนักงาน และ ตกแต่งออฟฟิศ

การสร้าง Recharge Room ที่ใช้งานได้ผลจริงต้องอาศัยการวางแผนและการออกแบบที่ใส่ใจในรายละเอียด ตั้งแต่การเลือกตำแหน่งไปจนถึงการแต่งออฟฟิศด้วยองค์ประกอบที่เหมาะสม

1. Location is Key เลือกตำแหน่งที่ใช่

ตำแหน่งของห้องควรอยู่ในมุมที่เงียบสงบของออฟฟิศ ห่างไกลจากพื้นที่ที่มีคนเดินพลุกพล่านหรือบริเวณที่มีเสียงดังรบกวน เช่น ห้องประชุมหรือแผนกขาย แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเข้าถึงได้ง่าย ไม่ควรซ่อนไว้ในมุมอับจนเกินไปจนไม่มีใครกล้าเข้าไปใช้

2. สีและแสง องค์ประกอบสร้างบรรยากาศ

การเลือกใช้โทนสีที่ให้ความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย เช่น สีฟ้าอ่อน เขียวตุ่น หรือสีเอิร์ธโทน หลีกเลี่ยงสีที่ฉูดฉาดหรือกระตุ้นความรู้สึกมากเกินไป เพราะจะรบกวนการพักผ่อน 

แสงธรรมชาติคือสิ่งที่ดีที่สุด แต่หากทำไม่ได้ ให้เลือกใช้แสงไฟสีวอร์มไวท์ (Warm White) ที่สามารถปรับหรี่ความสว่างได้ การตกแต่งออฟฟิศด้วยโคมไฟตั้งพื้นหรือไฟซ่อนจะให้ความรู้สึกนุ่มนวลกว่าไฟเพดานที่สว่างจ้า

3. เฟอร์นิเจอร์: เน้นความสบายและผ่อนคลาย

หัวใจสำคัญของการแต่งออฟฟิศในส่วนนี้คือความสบาย ควรมีเฟอร์นิเจอร์หลากหลายรูปแบบให้เลือกตามความต้องการ เช่น เก้าอี้พักผ่อน ที่มีพนักพิงนุ่มสบาย บีนแบ็ก สำหรับการนั่งเอนกายแบบไม่เป็นทางการ เดย์เบด (Daybed) หรือโซฟาเบด สำหรับการงีบหลับสั้นๆ (Power Nap) เป็นต้น

4. แต่งออฟฟิศ ด้วยองค์ประกอบจากธรรมชาติ (Biophilic Design)

Biophilic Design คือแนวคิดการออกแบบที่เชื่อมโยงมนุษย์เข้ากับธรรมชาติ ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดความเครียดและเพิ่มความสุขได้อย่างมหาศาล ลองนำองค์ประกอบเหล่านี้มาใช้ในการตกแต่งออฟฟิศของคุณ ต้นไม้ฟอกอากาศ เพิ่มความสดชื่นและออกซิเจน เสียงจากธรรมชาติ อาจเปิดเสียงน้ำไหลหรือเสียงนกเบาๆ เพื่อสร้างบรรยากาศ

5. Tech-Free Zone: พื้นที่ปลอดหน้าจอ

กำหนดให้ Recharge Room เป็นเขตปลอดเทคโนโลยีอย่างแท้จริง มีป้ายขอความร่วมมืองดใช้โทรศัพท์มือถือหรือแล็ปท็อป เพื่อให้ทุกคนที่เข้ามาใช้งานได้ตัดขาดจากโลกดิจิทัลและพักผ่อนอย่างเต็มที่ การออกแบบสำนักงานที่ดีควรคำนึงถึงการสร้างสมดุลระหว่างเทคโนโลยีและการพักผ่อน 

ตกแต่งออฟฟิศให้มีพื้นที่ชาร์จพลังใจ

เปลี่ยนออฟฟิศให้เป็นพื้นที่แห่งพลังใจ

สรุป Recharge Room เป็นมากกว่าห้องว่างๆ ในออฟฟิศ แต่มันคือสัญลักษณ์ของการออกแบบสำนักงานที่ให้ความสำคัญกับ "มนุษย์" เป็นหัวใจหลัก เป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดขององค์กร นั่นคือพนักงาน การสร้างพื้นที่สงบที่ส่งเสริมการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเครียดและป้องกันภาวะหมดไฟ แต่ยังช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มความผูกพัน และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งและยั่งยืน การลงทุนในการออกแบบสำนักงานและตกแต่งออฟฟิศเพื่อสร้าง Recharge Room คือก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนที่ทำงานของคุณให้เป็นสถานที่ที่พนักงานอยากมาทำงานและสามารถดึงศักยภาพสูงสุดของตนเองออกมาได้อย่างแท้จริง 

ตกแต่งออฟฟิศ

FAQ คำถามที่พบบ่อย

Q1: Recharge Room แตกต่างจากห้องพักผ่อนทั่วไป (Break Room) อย่างไร?

A: แตกต่างกันที่เป้าหมายหลักครับ Recharge Room เน้นความสงบ การตัดขาดจากสิ่งรบกวน และการฟื้นฟูจิตใจอย่างแท้จริง มักเป็นพื้นที่ปลอดเทคโนโลยี ในขณะที่ห้องพักผ่อนทั่วไปจะเน้นกิจกรรมทางสังคม การสังสรรค์ ซึ่งอาจมีเสียงดังและสิ่งเร้ามากกว่า 

Q2: จำเป็นต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ในการสร้าง Recharge Room หรือไม่?

A: ไม่จำเป็นเสมอไปครับ แม้แต่พื้นที่มุมเล็กๆ ที่เงียบสงบก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็นโซนพักผ่อนได้ หัวใจสำคัญอยู่ที่การออกแบบสำนักงานและการตกแต่งออฟฟิศที่สร้างบรรยากาศผ่อนคลายได้จริง เช่น การใช้ฉากกั้น การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสม และการควบคุมแสงและสี 

Q3: จะทำอย่างไรให้พนักงานกล้าใช้ Recharge Room โดยไม่รู้สึกผิด?

A: ต้องเริ่มจากวัฒนธรรมองค์กรครับ ผู้บริหารและหัวหน้าทีมต้องเป็นแบบอย่างในการใช้งาน และต้องมีการสื่อสารที่ชัดเจนว่าบริษัทสนับสนุนการพักผ่อนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การผสานแนวคิดนี้เข้ากับการออกแบบสำนักงานจะทำให้พนักงานเข้าใจว่านี่คือเครื่องมือหนึ่งในการทำงาน ไม่ใช่การอู้งาน

ออกแบบ Smart Office เปลี่ยนทุกสเปซให้ Make Sense พบกับโต๊ะและเก้าอี้ทำงานดีไซน์ใหม่เพื่อการทำงานที่สมูทยิ่งขึ้นที่โชว์รูม Modernform หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่ Call Center 0-2094-9999 หรือ ผ่านทาง Line Official Account ของ Modernform

Explore Products

ห้องทำงานผู้บริหาร

Next Inspired

5 ไอเดีย ออกแบบห้องทำงานผู้บริหารยุคใหม่ ให้เป็นพื้นที่ทำงานที่มีประสิทธิภาพ

ห้องทำงานผู้บริหาร ไม่ใช่เพียงแค่พื้นที่ทำงาน แต่ยังเป็นศูนย์กลางในการตัดสินใจและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ การออกแบบห้องทำงานให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

Discover
แชร์