อัปเดตเทรนด์ออฟฟิศแห่งอนาคต แนวคิดออกแบบออฟฟิศยุคใหม่

ออกแบบออฟฟิศให้ทันสมัย ให้ตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่ เป็นเรื่องหลายองค์กรให้ความสำคัญในช่วงที่ผ่านมา เพราะด้วยการเปลี่ยนแปลงของโลกการทำงาน ที่มีความยืดหยุ่นสูง พนักงานหันมาทำงานแบบ Hybrid Working โดยนำ Workplace Technology ต่างๆเข้ามาช่วยบริหารงานในออฟฟิศ ส่งผลให้หลายองค์กรปรับรูปแบบพื้นที่ทำงานใหม่ที่ทันสมัยมากขึ้น เพิ่มความคล่องตัวในการทำงานเพื่อให้เหมาะกับยุคดิจิตอลยิ่งขึ้น

หากคุณกำลังมีไอเดียปรับเปลี่ยนสำนักงาน ออกแบบออฟฟิศ รีโนเวทออฟฟิศใหม่ ให้ล้ำสมัยให้เหมาะกับคนรุ่นใหม่ วันนี้เรามีเทรนด์ออกแบบออฟฟิศยุคใหม่ ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำมาแนะนำกัน

ออกแบบออฟฟิศยุคใหม่ที่ทันสมัย ส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงาน

ทันสมัย จะเน้นผสานการทำงานและการใช้ชีวิตของพนักงานเข้าด้วยกันอย่างสมดุล โดยมีการแบ่งสัดส่วนโซนทำงานและโซนพักผ่อนอย่างชัดเจน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ส่งผลให้พนักงานสามารถนั่งทำงานได้ยาวนานขึ้นและมีแรงบันดาลใจสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ

อัปเดตเทรนด์การออกแบบออฟฟิศยุคใหม่ 2025

สำหรับปี 2024 ที่ผ่านมา นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อออฟฟิศ เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ โดยออฟฟิศหลายแห่งเริ่มนำเอาเฟอร์นิเจอร์และเทคโนโลยีใหม่ไปใช้กันในที่ทำงาน รองรับการใช้งานรูปแบบต่างๆและคอยอำนวยความสะดวกให้กับคนทำงานได้มากขึ้น หากคุณกำลังมองหาเทรนด์การออกแบบออฟฟิศใหม่ๆ เรารวบรวมมาให้ดูกันแล้ว! 

1. พื้นที่ทำงานที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ

เปลี่ยนพื้นที่ทำงานแบบเดิมๆ ให้กลายเป็นห้องที่ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น เทรนด์การออกแบบออฟฟิศในอนาคต จะเน้นห้องทำงานที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามความต้องการ เช่น ห้องทำงานส่วนตัว ที่เมื่อนำฉากกั้นออก แล้วปรับใหม่ให้กลายเป็นพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อทำให้พนักงานได้ทำกิจกรรมต่างๆง่ายขึ้น หรือแม้แต่โซนนั่งทำงาน ก็ยังสามารถขยายให้เป็นห้องประชุมพื้นที่กว้างขึ้นได้อีกด้วย 

พื้นที่ทำงานสไตล์นี้ จึงเหมาะกับเฟอร์นิเจอร์รูปแบบโมดูลาร์ (Modular) ซึ่งสามารถนำมาเชื่อมต่อกันได้กับเฟอร์นิเจอร์อีกชิ้นได้ เพื่อขยายพื้นที่และลดขนาดพื้นที่ได้ตามต้องการ 

2. พื้นที่ทำงานที่ผสมระหว่างพื้นที่ทำงานส่วนตัวและส่วนรวม

พฤติกรรมการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ส่งผลให้พนักงานนิยมทำงานกันแบบไฮบริดและมองหาที่ทำงานซึ่งความรู้สึกผ่อนคลาย เป็นกันเองมากขึ้น การออกแบบออฟฟิศในยุคใหม่ จึงนิยมมีการเพิ่มโซนพักผ่อนสำหรับพนักงานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น มุมชงกาแฟ ห้องทำสมาธิและโซนทำกิจกรรมสันทนาการ เพราะบรรยากาศการทำงานที่ผ่อนคลาย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้น 

3. พื้นที่ทำงานที่คำนึงถึงสุขภาพกายและใจของพนักงาน

ออกแบบออฟฟิศให้น่าทำงานดีต่อสุขภาพกายและใจของพนักงาน ไม่เพียงทำให้พนักงานมีความสุขกับงานมากขึ้นแล้ว ยังส่งให้เกิดแรงบันดาลใจ ไอเดียใหม่ๆที่สร้างสรรค์อีกด้วย 

การออกแบบออฟฟิศเพื่อสุขภาพ แนะนำให้เลือกเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศ ในดีไซน์ที่ใช้งานได้จริงและมอบความสะดวกสบายของพนักงานเป็นอันดับแรก เช่น เก้าอี้ Ergonomic Recliner,  เก้าอี้นวดไฟฟ้าและโต๊ะทำงานแบบปรับระดับได้ เป็นต้น 

4. พื้นที่ทำงานที่นำธรรมชาติเข้ามาไว้รวมกัน

ไอเดียออกแบบออฟฟิศทำงาน ที่ผสานธรรมชาติไว้เข้ากันอย่างลงตัว สามารถเพิ่มสงบผ่อนคลายให้กับพนักงานได้เป็นอย่างดี การออกแบบพื้นที่ทำงานรูปแบบนี้ จะนิยมวางแปลนพื้นที่แบบเปิดโล่ง ใช้ผนังกระจกและเน้นแสง Direct light พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุเลียนแบบธรรมชาติ เช่น ต้นไม้ปลอม ผนังและกระเบื้องลายไม้ เป็นต้น 

5. พื้นที่ทำงานที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย 

ปรับแต่งสภาพแวดล้อมการทำงานให้ดูล้ำสมัย เพิ่มความสะดวกให้กับพนักงานและเสริมความคล่องตัวยยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีในออฟฟิศรูปแบบใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น กระดานไวท์บอร์ดแบบดิจิตอล , ระบบเซ็นเซอร์เปิด-ปิดไฟฟ้าอัตโนมัติในออฟฟิศและโต๊ะทํางานไฟฟ้า เป็นต้น สำหรับแนวโน้มเทคโนโลยีเพื่อออฟฟิศในอนาคต จะพัฒนาไปสู่การใช้ AI (Artificial Intelligence) สั่งงานอัตโนมัติเวลาใช้งานอุปกรณ์ต่างๆในออฟฟิศ รวมถึงใช้ Smart Furniture ต่างๆ 

แนะนำ Smart Furniture เฟอร์นิเจอร์ทำงาน เพื่อออฟฟิศในอนาคต

Smart Furniture สำหรับออฟฟิศ คือเฟอร์นิเจอร์ที่ผสานเทคโนโลยีและการออกแบบที่ชาญฉลาดเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายในสถานที่ทำงาน โดยเน้นการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานในยุคดิจิทัล และคำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลักด่วยแนวคิด Activity-Based Working (ABW) เช่น โต๊ะประชุมที่มีระบบชาร์จไฟไร้สาย  โต๊ะทำงานไฟฟ้าปรับระดับได้และเก้าอี้สำนักงานไฟฟ้า เป็นต้น

แนวโน้มการออกแบบออฟฟิศยุคใหม่ในอนาคต จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกัน และความยืดหยุ่นสำหรับพนักงาน โดยการออกแบบจะคำนึงถึงความสมดุลระหว่างฟังค์ชั่นการใช้งานและความสวยงาม พร้อมผสานกับการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการทำงาน อย่างเต็มรูปแบบมากขึ้น 

การเอาเทคโนโลยี Smart Office มาใช้ออกแบบพื้นที่ทำงาน มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อพนักงานกับออฟฟิศได้อย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะทำงานจากที่ใดก็ตาม อันเป็นการสนับสนุนรูปแบบการทำงานแบบ Hybrid Working ที่ตอบโจทย์ความยืดหยุ่นและดีต่อ Well-being ของพนักงาน