ทำไมผู้บริหารยุคใหม่เลือก Co-Working Space แทนออฟฟิศส่วนตัว
หรือห้องทำงานผู้บริหาร อาจไม่ตอบโจทย์ มาดูเหตุผลที่ผู้บริหารยุคใหม่หันมาใช้ Co-Working Space แทนออฟฟิศส่วนตัว ที่จัดพื้นที่สำนักงานให้กับ CEO โดยเฉพาะ

ภาพจำของผู้บริหารที่นั่งทำงานในห้องส่วนตัวบนเก้าอี้หนังตัวใหญ่กำลังค่อยๆ เลือนหายไป และถูกแทนที่ด้วยภาพของผู้นำที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทีมในพื้นที่ทำงานร่วมกันที่เรียกว่า Co-Working Space การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เป็นเพียงกระแสชั่วคราว แต่เป็นผลลัพธ์จากการปรับเปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับการ จัดพื้นที่สำนักงาน ให้สอดคล้องกับความท้าทายและโอกาสในปัจจุบัน บทความนี้จะเจาะลึกถึงเหตุผลที่ทำให้ผู้บริหารยุคใหม่จำนวนมากตัดสินใจเลือกใช้ Co-Working Space เป็นฐานทัพในการขับเคลื่อนองค์กร
ทำไมการ จัดพื้นที่สำนักงาน แบบเดิมๆ ถึงไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป?
โลกธุรกิจในปัจจุบันให้ความสำคัญกับความเร็ว ความยืดหยุ่น และการทำงานร่วมกัน การ จัดพื้นที่สำนักงาน แบบดั้งเดิมที่แบ่งแยกพนักงานตามลำดับชั้น และมี ห้องทำงานผู้บริหาร ที่แยกตัวออกมาอย่างชัดเจน อาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการสื่อสารและสร้างนวัตกรรม ด้วยเหตุนี้ แนวคิดใหม่ๆ จึงเข้ามามีบทบาทเพื่อตอบโจทย์การทำงานแห่งอนาคต
1. ความคล่องตัวทางธุรกิจและการลดต้นทุน
การลงทุนสร้างออฟฟิศแบบดั้งเดิมมาพร้อมกับต้นทุนมหาศาล ทั้งค่าเช่าระยะยาว ค่าตกแต่งภายใน ค่าเฟอร์นิเจอร์ รวมถึง เก้าอี้ผู้บริหารระดับสูง และค่าบำรุงรักษาต่างๆ ซึ่งเป็นภาระผูกพันทางการเงินที่ลดทอนความคล่องตัวของธุรกิจ
ในทางกลับกัน Co-Working Space เสนอโมเดลแบบ "จ่ายเท่าที่ใช้" (Pay as you go) ที่ยืดหยุ่นกว่ามาก องค์กรสามารถเลือกขนาดพื้นที่ได้ตามจำนวนพนักงานในปัจจุบัน และขยายหรือลดขนาดได้ทันทีตามการเติบโตของธุรกิจ ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และนำงบประมาณไปลงทุนในส่วนอื่นที่สำคัญกว่าได้ การ จัดพื้นที่สำนักงาน ในลักษณะนี้จึงเหมาะสมกับสภาวะตลาดที่ผันผวนอย่างยิ่ง
2. โอกาสในการสร้างเครือข่ายและเข้าถึงนวัตกรรม
การทำงานใน ห้องทำงานผู้บริหาร แบบปิด ทำให้โอกาสในการพบปะผู้คนใหม่ๆ จากต่างอุตสาหกรรมเป็นไปได้ยาก Co-Working Space ได้ทำลายกำแพงเหล่านี้ลงโดยสิ้นเชิง ที่นี่คือศูนย์รวมของคนเก่งจากหลากหลายสาขาอาชีพ ตั้งแต่สตาร์ทอัพไฟแรง ไปจนถึงฟรีแลนซ์ผู้เชี่ยวชาญ และบริษัทขนาดใหญ่ที่ส่งทีมเข้ามาทำงาน
สภาพแวดล้อมเช่นนี้ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ สร้างเครือข่ายทางธุรกิจ (Networking) และอาจนำไปสู่ความร่วมมือที่ไม่คาดคิดได้ง่ายกว่าการ จัดพื้นที่สำนักงาน แบบปิด การได้อยู่ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยพลังงานและความคิดสร้างสรรค์ ยังเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ภายในองค์กรอีกด้วย
3. พลิกบทบาทผู้นำ: จาก เก้าอี้ผู้บริหารระดับสูง สู่การทำงานร่วมกับทีม
ความเป็นผู้นำในยุคใหม่ไม่ได้วัดจากขนาดของ ห้องทำงานผู้บริหาร หรือความหรูหราของ เก้าอี้ผู้บริหารระดับสูง อีกต่อไป แต่วัดจากความสามารถในการเข้าถึงทีม สร้างแรงบันดาลใจ และทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกทำงานใน Co-Working Space คือการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าผู้บริหารพร้อมที่จะลงมาทำงานใกล้ชิดกับพนักงานมากขึ้น
การลดระยะห่างทางกายภาพช่วยทลายกำแพงทางจิตใจ ทำให้พนักงานกล้าที่จะเข้ามาปรึกษาและเสนอความคิดเห็นมากขึ้น สิ่งนี้ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างและโปร่งใส ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานแบบ Agile ที่เน้นความรวดเร็วและการปรับตัว การ จัดพื้นที่สำนักงาน ที่เปิดโล่งจึงสะท้อนถึงรูปแบบความเป็นผู้นำสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี
4. ตอบโจทย์ Hybrid Work และดึงดูดคนเก่ง (Talent)
โมเดลการทำงานแบบผสมผสาน (Hybrid Work) ที่ให้พนักงานเลือกทำงานจากที่บ้านและเข้าออฟฟิศสลับกัน กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ การ จัดพื้นที่สำนักงาน แบบเดิมที่มีขนาดใหญ่และที่นั่งประจำอาจไม่คุ้มค่าอีกต่อไป Co-Working Space จึงเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับรูปแบบการทำงานนี้
บริษัทสามารถใช้ Co-Working Space เป็น "Hub" สำหรับให้พนักงานเข้ามาพบปะ ประชุม หรือทำกิจกรรมร่วมกันในวันที่ต้องเข้าออฟฟิศ การนำเสนอทางเลือกในการทำงานที่ยืดหยุ่นเช่นนี้ยังเป็นแม่เหล็กดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ (Talent) ที่มองหาความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว (Work-Life Balance) มากกว่าแค่การมี ห้องทำงานผู้บริหาร ที่สวยงาม
เปรียบเทียบการ จัดพื้นที่สำนักงาน: ออฟฟิศดั้งเดิม vs. Co-Working Space
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น เรามาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของการ จัดพื้นที่สำนักงาน ทั้งสองรูปแบบกัน
ออฟฟิศแบบดั้งเดิม (Traditional Office)
- ข้อดี: มีความเป็นส่วนตัวสูง, ควบคุมสภาพแวดล้อมและสร้างแบรนด์องค์กรได้เต็มที่, สร้างภาพลักษณ์ของความมั่นคง
- ข้อเสีย: ต้นทุนเริ่มต้นและค่าใช้จ่ายต่อเนื่องสูง, ขาดความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนขนาด, มีภาระผูกพันตามสัญญาระยะยาว, อาจสร้างกำแพงระหว่างผู้บริหารและทีม
Co-Working Space
- ข้อดี: ยืดหยุ่นสูง ปรับเปลี่ยนขนาดได้ง่าย, ประหยัดต้นทุน ไม่ต้องลงทุนค่าตกแต่งและอุปกรณ์, มีโอกาสสร้างเครือข่ายธุรกิจ, มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน, ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้าง
- ข้อเสีย: ความเป็นส่วนตัวน้อยกว่า, อาจมีเสียงรบกวน, ไม่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้ทั้งหมด, ภาพลักษณ์อาจดูไม่มั่นคงเท่าออฟฟิศของตัวเองในสายตาของลูกค้าบางกลุ่ม
แล้วจะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับองค์กรของคุณ?
การตัดสินใจเลือกระหว่างออฟฟิศดั้งเดิมกับ Co-Working Space ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ขนาดขององค์กร, วัฒนธรรมองค์กร, ลักษณะของธุรกิจ และแผนการเติบโตในอนาคต องค์กรขนาดใหญ่อาจเลือกใช้โมเดลผสมผสาน โดยมีสำนักงานใหญ่เป็นของตัวเอง และใช้ Co-Working Space เป็นสำนักงานสาขาหรือพื้นที่สำหรับโปรเจกต์พิเศษ ขณะที่สตาร์ทอัพและ SMEs อาจได้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นและต้นทุนที่ต่ำกว่าของ Co-Working Space อย่างเต็มที่
สิ่งสำคัญคือการพิจารณาว่าการ จัดพื้นที่สำนักงาน รูปแบบใดที่จะส่งเสริมเป้าหมายทางธุรกิจและดึงดูดบุคลากรที่คุณต้องการได้ดีที่สุด ไม่ว่าคุณจะยังต้องการ ห้องทำงานผู้บริหาร เพื่อความเป็นส่วนตัว หรือพร้อมที่จะนั่งทำงานบน เก้าอี้ผู้บริหารระดับสูง ท่ามกลางทีมงานของคุณแล้วก็ตาม
สรุป
การที่ผู้บริหารยุคใหม่หันมาเลือกใช้ Co-Working Space สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงกระบวนทัศน์ในการทำธุรกิจ ที่ให้ความสำคัญกับความคล่องตัว, การทำงานร่วมกัน, การสร้างเครือข่าย และความยืดหยุ่นมากกว่าการยึดติดกับสัญลักษณ์แห่งอำนาจแบบเดิมๆ เช่น ห้องทำงานผู้บริหาร ขนาดใหญ่ การเลือกรูปแบบการ จัดพื้นที่สำนักงาน ไม่ใช่แค่เรื่องของสถานที่ แต่คือการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่บ่งบอกถึงวิสัยทัศน์และทิศทางขององค์กรในอนาคต
FAQ (คำถามที่พบบ่อย)
- Co-Working Space เหมาะสมกับบริษัทขนาดใหญ่ที่มีพนักงานจำนวนมากหรือไม่?
ตอบ: เหมาะสมอย่างยิ่ง Co-Working Space หลายแห่งมีบริการ "Private Office" หรือ "Enterprise Solutions" ที่สามารถจัดสรรพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับทั้งแผนกหรือทั้งบริษัทได้ โดยยังคงได้รับประโยชน์จากความยืดหยุ่นและสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการ จัดพื้นที่สำนักงาน ของบริษัทขนาดใหญ่ที่ต้องการความคล่องตัว
- การไม่มี ห้องทำงานผู้บริหาร ส่วนตัว จะทำให้เสียความเป็นส่วนตัวและสถานะความเป็นผู้นำหรือไม่?
ตอบ: ไม่เสมอไป ความเป็นผู้นำยุคใหม่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสัญลักษณ์ภายนอก แต่คือการกระทำและการเข้าถึงได้ง่าย การทำงานใกล้ชิดทีมกลับช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นได้ดียิ่งขึ้น สำหรับความเป็นส่วนตัว Co-Working Space ส่วนใหญ่มี "Phone Booth" หรือห้องประชุมเล็กๆ สำหรับการคุยโทรศัพท์หรือประชุมที่ต้องการสมาธิ ดังนั้น แม้จะไม่ได้นั่งบน เก้าอี้ผู้บริหารระดับสูง ในห้องส่วนตัว แต่ก็ยังมีพื้นที่สำหรับงานที่ต้องการความเป็นส่วนตัวเช่นกัน
ออกแบบ Smart Office เปลี่ยนทุกสเปซให้ Make Sense พบกับโต๊ะและเก้าอี้ทำงานดีไซน์ใหม่เพื่อการทำงานที่สมูทยิ่งขึ้นที่โชว์รูม Modernform หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่ Call Center 0-2094-9999 หรือ ผ่านทาง Line Official Account ของ Modernform