ออกแบบออฟฟิศยุคใหม่ สำหรับ Coworking Space ควรมีขนาดเท่าไหร่?

การ จัดพื้นที่ Co Working Space ได้กลายเป็นเทรนด์ที่สำคัญสำหรับโลกการทำงานยุคใหม่ ไม่ใช่เพียงเพราะการประหยัดต้นทุน แต่คือการสร้างพื้นที่ที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน การสร้างเครือข่าย และความยืดหยุ่นที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของฟรีแลนซ์ สตาร์ทอัพ และบริษัทขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม คำถามที่สำคัญสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในธุรกิจนี้ก็คือ "ควร ออกแบบออฟฟิศ Coworking Space ให้มีขนาดเท่าไหร่?" ซึ่งคำตอบไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเลขเพียงอย่างเดียว แต่คือการพิจารณาจากแนวคิดการใช้งานและกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก

บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจแนวทางการจัดสรรพื้นที่อย่างชาญฉลาด และปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในการ ออกแบบออฟฟิศ สำหรับ Coworking Space เพื่อให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ

ทำความเข้าใจประเภทและขนาด พื้นฐานการจัดพื้นที่ Co Working Space

แนวคิดหลักของ ออกแบบสำนักงาน Coworking Space คือความยืดหยุ่นที่หลากหลาย เพื่อรองรับรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกัน การกำหนดขนาดพื้นที่จึงขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก โดยสามารถแบ่งประเภทได้ดังนี้:

• ขนาดเล็ก (150 - 500 ตร.ม.): เหมาะสำหรับฟรีแลนซ์, ทีมขนาดเล็ก หรือองค์กรที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวไม่กี่ห้อง เน้นบรรยากาศที่อบอุ่น เป็นกันเอง และการสร้างคอมมูนิตี้ในกลุ่มเล็กๆ
• ขนาดกลาง (500 - 1,500 ตร.ม.): สามารถรองรับมืออาชีพที่หลากหลายกลุ่มมากขึ้น มีทั้งโซนทำงานส่วนตัว, พื้นที่แบบเปิดโล่ง และห้องประชุมหลายขนาด
• ขนาดใหญ่ (1,500 - 5,000+ ตร.ม.): มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น คาเฟ่, ห้องสัมมนา, ห้องโทรศัพท์, หรือพื้นที่สำหรับการจัดกิจกรรมต่างๆ เหมาะสำหรับรองรับบริษัทขนาดใหญ่ที่ต้องการพื้นที่สำหรับพนักงานบางส่วน

การเลือกขนาดที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ และช่วยให้การ จัดพื้นที่ Co Working Space มีประสิทธิภาพสูงสุด

การจัดสรรพื้นที่อย่างชาญฉลาดใน ออกแบบออฟฟิศ

หัวใจสำคัญของ ออกแบบออฟฟิศยุคใหม่ สำหรับ Coworking Space คือการจัดสรรพื้นที่สำหรับโซนต่างๆ อย่างลงตัว ซึ่งประกอบด้วย:

ออฟฟิศส่วนตัว (Private Offices)

ขนาดที่เหมาะสมสำหรับทีม 2-3 คน ควรอยู่ที่ประมาณ 10-15 ตร.ม. และสำหรับทีม 5-6 คน ควรอยู่ที่ประมาณ 20-30 ตร.ม. เพื่อให้ทุกคนมีพื้นที่ทำงานที่เพียงพอและรู้สึกสบาย

ห้องประชุม (Meeting Rooms)

ควรมีหลายขนาดเพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกัน ห้องประชุมสำหรับ 4 คน ควรมีขนาดประมาณ 8-10 ตร.ม. และสำหรับ 10-12 คน ควรมีขนาดประมาณ 20-25 ตร.ม.

พื้นที่ส่วนกลาง (Community Areas)

พื้นที่ส่วนกลาง เช่น พื้นที่นั่งเล่น, โซนคาเฟ่, หรือ Pantry มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างปฏิสัมพันธ์และการสร้างเครือข่าย ควรมีสัดส่วนประมาณ 30-40% ของพื้นที่ทั้งหมด เพื่อให้ผู้ใช้งานรู้สึกผ่อนคลายและสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้อย่างอิสระ การ ออกแบบออฟฟิศ ที่ดีควรคำนึงถึงสัดส่วนของพื้นที่เหล่านี้อย่างสมดุล เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด

ปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในการออกแบบสำนักงาน

ขนาดพื้นที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเลขในกระดาษเพียงอย่างเดียว แต่ต้องพิจารณาปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อให้การจัดพื้นที่ Co Working Spaceเกิดประโยชน์สูงสุด 

กลุ่มเป้าหมาย

หากกลุ่มเป้าหมายหลักคือฟรีแลนซ์ที่ต้องการโต๊ะทำงานส่วนตัว อาจต้องเพิ่มสัดส่วนพื้นที่ทำงานแบบเปิดโล่ง แต่หากกลุ่มเป้าหมายคือบริษัทสตาร์ทอัพที่ต้องการออฟฟิศส่วนตัว อาจต้องเน้นไปที่การสร้าง Private Offices เป็นหลัก

สิ่งอำนวยความสะดวก

หากต้องการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน คุณอาจต้องเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ห้องโทรศัพท์สำหรับคุยงานส่วนตัว, พื้นที่สำหรับจัดกิจกรรม, หรือห้องสมุดสำหรับอ่านหนังสือ

จำนวนที่นั่งที่ต้องการ

การกำหนดสัดส่วนระหว่างจำนวนโต๊ะทำงาน, ห้องประชุม, และพื้นที่ส่วนกลางจะช่วยให้คุณสามารถคำนวณพื้นที่ที่ต้องการได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

การพิจารณาปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถ จัดพื้นที่ Co Working Space ได้อย่างเหมาะสมกับกลยุทธ์ทางธุรกิจของคุณ

การสร้างสมดุลระหว่างพื้นที่ทำงานและพื้นที่ส่วนกลาง

การ ออกแบบสำนักงาน ที่มีประสิทธิภาพ คือการสร้างสมดุลที่ลงตัวระหว่างพื้นที่ที่ก่อให้เกิดรายได้ (เช่น ออฟฟิศส่วนตัว) และพื้นที่ส่วนกลางที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีและกระตุ้นให้เกิดการทำงานร่วมกัน หากคุณเน้นพื้นที่ทำงานมากเกินไป อาจทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกอึดอัดและจำเจ ในทางกลับกัน หากเน้นพื้นที่ส่วนกลางมากเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของธุรกิจได้

คำแนะนำคือการเริ่มต้นด้วยการกำหนดสัดส่วนตามที่กล่าวไว้ในหัวข้อที่ 2 และปรับเปลี่ยนตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และการใช้งานจริงของพื้นที่ การสร้างสมดุลที่เหมาะสมจะช่วยให้ Coworking Space ของคุณใช้งานได้จริง และยังสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว

คำถามที่พบบ่อย 

Q: ถ้าต้องการสร้าง Coworking Space ขนาดเล็ก ควรเน้นการออกแบบส่วนไหนมากที่สุด?

A: ควรเน้นที่ พื้นที่ส่วนกลาง (Community Area) ที่มีคุณภาพและออกแบบมาอย่างดี เพราะจะเป็นจุดขายหลักที่สร้างความรู้สึกโปร่งสบายและสร้างบรรยากาศของชุมชน แม้พื้นที่จะมีจำกัด และควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์อเนกประสงค์ (Multi-functional) เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้

Q: การจัดสัดส่วนพื้นที่ระหว่างโต๊ะทำงานและห้องประชุมที่เหมาะสมควรเป็นเท่าไหร่?

A: ไม่มีกฎตายตัว แต่หลักการที่ดีคือควรมีพื้นที่ทำงาน (โต๊ะทำงานและออฟฟิศส่วนตัว) ประมาณ 60-70% และพื้นที่สนับสนุน (ห้องประชุม, พื้นที่ส่วนกลาง, ห้องโทรศัพท์) ประมาณ 30-40% สัดส่วนนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามกลุ่มเป้าหมายหลักของคุณ

Q: การเลือกเฟอร์นิเจอร์ส่งผลต่อการใช้สอยพื้นที่ใน Coworking Space อย่างไร?

A: ส่งผลอย่างมาก เฟอร์นิเจอร์แบบโมดูลาร์ (Modular) หรือเฟอร์นิเจอร์ที่เคลื่อนย้ายง่ายจะช่วยให้การ จัดพื้นที่ Co Working Space มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนผังเพื่อรองรับกิจกรรมหรือจำนวนผู้ใช้งานที่เปลี่ยนไปได้ง่าย การเลือกขนาดโต๊ะและเก้าอี้ที่เหมาะสมยังช่วยเพิ่มจำนวนที่นั่งได้โดยไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด

Q: แนวคิดการออกแบบออฟฟิศยุคใหม่แบบ Hybrid Work ส่งผลต่อการคำนวณพื้นที่อย่างไร?

A: Hybrid Work ทำให้ความต้องการพื้นที่เปลี่ยนไป บริษัทต่างๆ อาจต้องการออฟฟิศส่วนตัวขนาดเล็กลง แต่ต้องการใช้ห้องประชุมและพื้นที่ส่วนกลางสำหรับวันที่พนักงานเข้าออฟฟิศเพื่อทำงานร่วมกันมากขึ้น ดังนั้น การ ออกแบบออฟฟิศ จึงต้องเน้นความยืดหยุ่น โดยอาจเพิ่มสัดส่วนของ Hot Desk และห้องประชุมขนาดเล็กให้มากขึ้น

การ ออกแบบออฟฟิศยุคใหม่ สำหรับ Coworking Space เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะและศาสตร์ในการจัดสรรพื้นที่ การกำหนดขนาดที่เหมาะสมต้องอาศัยการทำความเข้าใจในกลุ่มเป้าหมาย ความต้องการใช้งาน และการสร้างสมดุลระหว่างพื้นที่ทำงานและพื้นที่ส่วนกลาง การ จัดพื้นที่ Co Working Space อย่างชาญฉลาดไม่เพียงแต่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ แต่ยังช่วยสร้างสรรค์ชุมชนที่เต็มไปด้วยพลังงานและโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้งานทุกคน